วันอังคารที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2552




โมเมนต์ของแรง โมเมนต์ของแรง (moment of force) หรือโมเมนต์ (moment) หมายถึง ผลของแรงที่กระทำต่อวัตถุเพื่อให้วัตถุหมุนไปรอบจุดหมุน ดังนั้น โมเมนต์ของแรงก็คือ ผลคูณของแรงกับระยะตั้งฉากจากแนวแรงถึงจุดหมุน ดังสูตรทิศทางของโมเมนต์ มี 2 ทิศทาง คือ1. โมเมนต์ตามเข็มนาฬิกา2. โมเมนต์ทวนเข็มนาฬิการูปแสดงทิศทางของโมเมนต์จากรูป โมเมนต์ตามเข็มนาฬิกา = WxL2 (นิวตัน-เมตร)โมเมต์ทวนเข็มนาฬิกา = ExL1 (นิวตัน-เมตร)ถ้ามีแรงหลายแรงกระทำต่อวัตถุชิ้นหนึ่ง แล้วทำให้วัตถุนั้นอยู่ในสภาวะสมดุลจะได้ว่าผลรวมของโมเมนต์ทวนเข็มนาฬิกา = ผลรวมของโมเมนต์ตามเข็มนาฬิกาคานหลักการของโมเมนต์ เรานำมาใช้กับอุปกรณ์ที่เรียกว่า คาน (lever) หรือคานดีดคานงัด คานเป็นเครื่องกลชนิดหนึ่งที่ใช้ดีดงัดวัตถุให้เคลื่อนที่รอบจุดหมด (fulcrum) มีลักษณะเป็นแท่งยาว หลักการทำงานของคานใช้หลักของโมเมนต์รูปแสดงลักษณะของคานส่วนประกอบของคาน ส่วนประกอบที่สำคัญในการทำงานของคานมี 3 ส่วน คือ1. จุดหมุนหรือจุดฟัลกรัม (Fulcrum) F2. แรงความต้านทาน (W) หรือน้ำหนักของวัตถุ3. แรงความพยายาม (E) หรือแรงที่กระทำต่อคานการจำแนกคาน คานจำแนกได้ 3 ประเภทหรือ 3 อันดับดังนี้1. คานอันดับที่ 1 เป็นคานที่มีจุด (F) อยู่ระหว่างแรงความพยายาม (E) และแรงความต้านทาน (W) เช่น กรรไกรตัดผ้า กรรไกรตัดเล็บ คีมตัดลวด เรือแจว ไม้กระดก เป็นต้นรูปแสดงคานอันดับ 12. คานอันดับ 2 เป็นคานที่มีแรงความต้านทาน (W) อยู่ระหว่างแรงความพยายาม (E) และจุดหมุน (F) เช่น ที่เปิดขวดน้ำอัดลม รถเข็นทราย ที่ตัดกระดาษ เป็นต้นรูปแสดงคานอันดับ 23. คานอันดับที่ 3 เป็นคานที่มีแรงความพยายาม (E) อยู่ระหว่างแรงความต้านทาน (W) และจุดหมุน (F) เช่น ตะเกียบ คีมคีบถ่าน แหนบ เป็นต้นรูปแสดงคานอันดับ 3การผ่อนแรงของคาน จะมีค่ามากหรือน้อยโดยดูจากระยะ E ถึง F และ W ว่าถ้าระยะ EF ยาวหรือสั้นกว่าระยะ WF ถ้าในกรณีที่ยาวกว่าก็จะช่วยผ่อนแรง ถ้าสั้นกว่าก็จะไม่ผ่อนแรงหลักการคำนวณเรื่องคาน มีดังนี้1. ถ้าโจทย์ไม่บอกน้ำหนักของคานมาให้ เราไม่ต้องคิดน้ำหนักของคาน ถือว่าคานนั้นเบามาก2. ในการคำนวณให้ถือว่า คานมีขนาดสม่ำเสมอกันตลอด3. ถ้าโจทย์บอกน้ำหนักคานมาให้ต้องคิดน้ำหนักคานด้วย โดยถือว่าน้ำหนักของคานจะอยู่จุดกึ่งกลางคานเสมอ4. เมื่อคานอยู่ในสภาวะสมดุล โมเมนต์ทวนเข็มนาฬิกาเท่ากับโมเมนต์ตามเข็มนาฬิกา5. โมเมนต์ทวนเข็มนาฬิกา หรือโมเมนต์ตามเข็มนาฬิกามีค่าเท่ากับ ผลบวกของโมเมนต์ย่อยแต่ละชนิด6. เมื่อมีแรงมากระทำที่จุดหมุน ค่าของโมเมนต์มีค่าเท่ากับศูนย์เพราะระยะทางเป็นศูนย์ ดังนี้โมเมนต์ = แรง x ระยะทางตั้งฉากจากจุดหมุนถึงแนวแรง= แรง x 0โมเมนต์ = 0หลักการคำนวณเรื่องโมเมนต์ เช่นตัวอย่างที่ 1 คานอันหนึ่งเบามากมีน้ำหนัก 30 นิวตันแขวนที่ปลายคานข้างหนึ่ง และอยู่ห่างจุดหมุน 2 เมตร จงหาว่าจะต้องแขวนน้ำหนัก 15 นิวตัน ทางด้านตรงกันข้ามที่ใดคานจึงจะสมดุลวิธีทำ สมมุติให้แขวนน้ำหนัก 15 นิวตัน ห่างจากจุดหมุน x เมตร คิดโมเมนต์ที่จุด Fต้องแขวนน้ำหนัก 15 นิวตัน ห่างจากจุดหมุน 4 เมตร ตอบตัวอย่างที่ 2 คานยาว 10 เมตรงัดวัตถุหนัก 100 นิวตัน โดยวางให้จุดหมุนอยู่ห่างจากวัตถุ 1 เมตร จงหาว่า จะต้องออกแรงที่ปลายคานอีกข้างหนึ่งเท่าไรวิธีทำ คิดโมเมนต์ที่จุด Fต้องออกแรงพยายาม = 11.11 นิวตัน ตอบ
เขียนโดย
0 ความคิดเห็น

เรื่อง โมเมนต์ของแรงแรง (force) คือ อำนาจอย่างหนึ่งซึ่งสามารถทำให้หรือพยายามทำให้วัตถุเปลี่ยนภาวะจากการหยุดนิ่ง เป็นการเคลื่อนที่ หรือภาวะจากการเคลื่อนที่เป็นการหยุดนิ่งหน่วยของแรง แรงมีหน่วยเป็นนิวตัน (N)ผลของแรง1. แรงทำให้วัตถุเคลื่อนที่ตามแนวแรง เกิดเป็นงาน2. แรงทำให้วัตถุหมุนรอบจุดๆ หนึ่ง เกิดเป็นโมเมนต์โมเมนต์ (moment) หมายถึง ผลคูณของแรงกับระยะทางตั้งฉากจากจุดหมุนไปยังแนวแรง หรือโมเมนต์ = แรง x ระยะทางตั้งฉากจากจุดหมุนไปยังแนวแรงหน่วยของโมเมนต์ โมเมนต์มีหน่วยเป็น นิวตันเมตรโมเมนต์มี 2 ชนิด คือ1. โมเมนต์ตามเข็มนาฬิกา2. โมเมนต์ทวนเข็มนาฬิกากฏของโมเมนต์เมื่อวัตถุชิ้นหนึ่งถูกกระทำด้วยแรงหลายแรง แล้ววัตถุนั้นอยู่ในภาวะสมดุลจะได้ว่าผลรวมของโมเมนต์ตามเข็มนาฬิกา = ผลรวมของโมเมนต์ทวนเข็มนาฬิกา
เขียนโดย
0 ความคิดเห็น

แรงเสียดทานแรงเสียดทาน หมายถึง แรงที่ใช้ต้านการเคลื่อนที่ของวัตถุกำหนดให้วัตถุมวล m มีน้ำหนัก mg วางอยู่บนพื้นราบ ดังรูปโดย N คือ แรงปฏิกิริยาของพื้นที่กระทำต่อวัตถุmg คือ น้ำหนักของวัตถุที่กระทำต่อพื้น (กดลงพื้น)เราสามารถพิจารณาผลที่เกิดขึ้นกับวัตถุได้ในหลายๆ กรณี ดังต่อไปนี้1.เมื่อวัตถุอยู่นิ่ง ไม่มีแรงภายนอกมากระทำให้วัตถุเคลื่อนที่ แรงเสียดทานจะมีค่าเท่ากับศูนย์2.เมื่อมีแรงภายนอกมากระทำ มีผลให้วัตถุเคลื่อนที่ไปทางซ้าย แรงเสียดทานจะมีทิศทางไปทางขวา คือมีทิศตรงกันข้ามกับการเคลื่อนที่ของวัตถุ และกระทำต่อผิวล่างของวัตถุที่สัมผัสกับพื้น ดังรูปโดย F แทน แรงที่ใช้ดึงให้วัตถุเคลื่อนที่f แทน แรงเสียดทานถ้าวัตถุเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสม่ำเสมอจะได้ว่า F = f นั่นคือ แรงภายนอกที่กระทำให้วัตถุเคลื่อนที่จะมีค่าเท่ากับแรงเสียดทาน3.เมื่อมีแรงกระทำกับวัตถุเดิมแต่มีทิศที่ทำให้วัตถุเคลื่อนที่ไปทางขวา แรงเสียดทานจะมีทิศทางไปทางซ้ายคอยต้านการเคลื่อนที่ของวัตถุ โดย F แทน แรงที่ใช้ดึงให้วัตถุเคลื่อนที่f แทน แรงเสียดทานประเภทของแรงเสียดทานแรงเสียดทานแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ1.แรงเสียดทานสถิต (Static Friction) เป็นแรงเสียดทานซึ่งเกิดจากผิววัตถุ 2 ชนิด มาสัมผัสกัน พบว่า แรงเสียดทานที่เกิดจะมีค่าไม่คงที่ จะมีปริมาณเท่ากับแรงที่มากระทำและจะมีค่าสูงสุดเมื่อวัตถุเริ่มเคลื่อนที่2.แรงเสียดทานจลน์ (Kinetic Friction) เป็นแรงเสียดทานที่เกิดกับผิวของวัตถุทั้ง 2 ชนิด ในขณะที่วัตถุกำลังเคลื่อนที่ เช่น การกลิ้งของวัตถุ การลื่นไถลของวัตถุ และการไหลของวัตถุ เป็นต้นแรงเสียดทานเนื่องจากการกลิ้งของวัตถุและแรงเสียดทานเนื่องจากการลื่นไถลของวัตถุนั้นขนาดของแรงเสียดทานจะขึ้นอยู่กับน้ำหนักของวัตถุ ตัวอย่างเช่น เราสามารถดันรถยนต์ที่เข้าเกียร์ว่างไว้ให้เคลื่อนที่ได้ง่ายกว่าการดันรถบรรทุกขนาดใหญ่ เป็นต้นนอกจากนี้แรงเสียดทานยังขึ้นอยู่กับลักษณะและประเภทของผิวหน้าของพื้นที่วัตถุสัมผัส พื้นผิวหน้าขรุขระจะทำให้เกิดแรงเสียดทานมากกว่าพื้นที่มีผิวหน้าเรียบ ตัวอย่างเช่น แรงเสียดทานบนพื้นทรายมีค่ามากกว่าแรงเสียดทานบนพื้นคอนกรีตที่เป็นทางวิ่งของสเกตบอร์ด ส่วนแรงเสียดทานจะเกิดขึ้นน้อยมาก เมื่อคนดันกล่องไม้ให้เคลื่อนที่บนพื้นที่มีผิวหน้าเรียบแรงเสียดทานเนื่องจากของไหล เช่น น้ำ ลม หรืออากาศ จะเกิดขึ้นเมื่อวัตถุเคลื่อนที่ข้าม ขวาง หรือผ่านเข้าไปในของไหลหรืออากาศ ตัวอย่างเช่น เมื่อเราถีบรถจักรยานปะทะลม หรือว่ายดำน้ำลงไปยังก้นสระหรือในทะเล ในของไหลนี้แรงเสียดทานของวัตถุจะขึ้นอยู่กับขนาด รูปร่าง และความเร็วของวัตถุด้วยสัมประสิทธิ์ของความเสียดทานสัมประสิทธิ์ของความเสียดทาน เป็นอัตราส่วนระหว่างแรงที่กระทำให้วัตถุเคลื่อนที่กับแรงที่กดลงบนพื้นผิวสัมผัส นักวิทยาศาสตร์ใช้อักษรมิว เป็นสัญลักษณ์แทน สัมประสิทธิ์ของความเสียดทาน
เขียนโดย กัลยาณี แก้วกัญจะ
0 ความคิดเห็น

ใบความรู้ที่ 35เรื่อง แรงดึงดูดของโลกแรงดึงดูดของโลกแรงดึงดูดของโลกเป็นแรงที่เกิดจากโลกออกแรงดึงดูดวัตถุต่างๆ ให้ไปยังจุดศูนย์กลางของโลก โดยแรงนี้จะกระทำต่อวัตถุต่างๆ อยู่ตลอดเวลาน้ำหนักวัตถุต่างๆ ที่อยู่บนโลกมีน้ำหนัก ที่กล่าวว่ามีน้ำหนักนั้นเนื่องจาก แรงดึงดูดของโลกดึงดูดวัตถุให้ตกลงมายังพื้นโลก เมื่อกล่าวถึงน้ำหนักก็จะต้องกล่าวถึงมวลด้วย มวลและน้ำหนักไม่ใช่สิ่งเดียวกันมวล คือ ปริมาณของสารในวัตถุน้ำหนัก คือ แรงเนื่องจากแรงดึงดูดของโลกที่กระทำต่อวัตถุถ้าให้ m1 เป็นมวลของวัตถุm2 เป็นมวลของโลกR เป็นระยะห่างจากจุดศูนย์กลางโลกถึงวัตถุF เป็นแรงดึงดูดระหว่างมวลของโลกและวัตถุหรือจะได้ว่าF =Gm1M2/R2 G คือ ค่าคงตัวความโน้มถ่วงสากล มีค่า 6.67 × 10-11 Nm2/ kg2นํ้าหนักของวัตถุชิ้นหนึ่งๆ เมื่อชั่งในบริเวณต่างกันจะมีค่าต่างกัน โดยนํ้าหนักของมวล1 กิโลกรัมที่บริเวณเส้นศูนย์สูตรมีค่าประมาณ 9.78 นิวตัน ในขณะที่นํ้ าหนักของมวล 1 กิโลกรัมที่บริเวณขั้วโลกมีค่าประมาณ 9.83 นิวตันถ้าวัตถุมีมวลมากแล้ว โลกก็จะต้องออกแรงดึงดูดวัตถุนั้นมากด้วย วัตถุที่มีขนาดใหญ่นั้นก็จะมีน้ำหนักมากตามไปด้วย ในทำนองเดียวกันถ้าวัตถุนั้นมีมวลน้อย โลกก็จะออกแรงดึงดูดวัตถุนั้นน้อย วัตถุที่มีขนาดเบา ก็จะมีน้ำหนักน้อยเช่นกันน้ำหนัก คือแรงเนื่องจากแรงดึงดูดของโลกกระทำต่อวัตถุ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเราแขวนแอบเปิ้ลที่ตะขอของเครื่องชั่งสปริงแบบแขวน น้ำหนักของแอปเปิ้ลจะกรทำต่อสปริง แรงที่เกิดจากน้ำหนักของผลแอบเปิลจะกรทำต่อสปริงทำให้สปริงเปลี่ยนรูปร่างและขนาดได้มนุษย์รู้จักธรรมชาติของแรงโน้มถ่วงของโลกมาเป็นเวลานานแล้ว และได้พัฒนาเครื่องมือ เครื่องใช้ ตลอดจนอุปกรณ์ต่างๆ ที่จะใช้ประโยชน์จากแรงโน้มถ่วง เช่น การใช้สามเกอตอกเสาเข็มซึ่งต่อมาได้พัฒนามาเป็นปั้นจั่น การใช้ประโยชน์จากการไหลของน้ำจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำไปหมุนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า การเล่นไม้ลื่นหรือกระดานลื่นก็อาศัยน้ำหนักตัวเรา ทำให้เคลื่อนที่ลงมาตามไม้ลื่นได้การพัฒนารูปร่างของยานพาหนะก็ต้องคำนึงถึงน้ำหนักของยานพาหนะและน้ำหนักของสัมภาระที่จะบรรทุกด้วย เพราะถ้าบรรทุกน้ำหนักมาก พลังงานที่ใช้ในการเคลื่อนที่ของยานพาหนะก็จะสิ้นเปลืองมากด้วย การยกของและการเดินขึ้นสู่ที่สูงต้องออกแรงเพื่อเอาชนะแรงโน้มถ่วงของโลก จึงมีการพัฒนาเครื่องมือและอุปกรณ์ช่วยผ่อนแรง หรืออำนวยความสะดวก เช่น รอก ลิฟท์ เพื่อช่วยในการเคลื่อนที่ขึ้นสู่ที่สูงทำได้สะดวกและง่ายขึ้น

สวัสดีปีใหม่ Grammy Various Artist - สวัสดีปีใหม่
เพลง สวัสดีปีใหม่.mp3 3.76 MB.








ใบความรู้ที่ 35
เรื่อง แรงดึงดูดของโลก
แรงดึงดูดของโลก
แรงดึงดูดของโลกเป็นแรงที่เกิดจากโลกออกแรงดึงดูดวัตถุต่างๆ ให้ไปยังจุดศูนย์กลางของโลก โดยแรงนี้จะกระทำต่อวัตถุต่างๆ อยู่ตลอดเวลา

น้ำหนัก
วัตถุต่างๆ ที่อยู่บนโลกมีน้ำหนัก ที่กล่าวว่ามีน้ำหนักนั้นเนื่องจาก แรงดึงดูดของโลกดึงดูดวัตถุให้ตกลงมายังพื้นโลก เมื่อกล่าวถึงน้ำหนักก็จะต้องกล่าวถึงมวลด้วย มวลและน้ำหนักไม่ใช่สิ่งเดียวกัน

มวล คือ ปริมาณของสารในวัตถุ
น้ำหนัก คือ แรงเนื่องจากแรงดึงดูดของโลกที่กระทำต่อวัตถุ




ถาให m1 เปนมวลของวัตถุ
m2 เปนมวลของโลก
R เปนระยะหางจากจุดศูนยกลางโลกถึงวัตถุ
F เปนแรงดึงดูดระหวางมวลของโลกและวัตถุ

จะไดวา F  m1
F  m2
F 
F 
หรือจะไดวา
F =
G คือ คาคงตัวความโนมถวงสากล มีคา 6.67 × 10-11 Nm2/ kg2

นํ้ าหนักของวัตถุชิ้นหนึ่งๆ เมื่อชั่งในบริเวณตางกันจะมีคาตางกัน โดยนํ้ าหนั กของมวล
1 กิโลกรัมที่บริเวณเสนศูนยสูตรมีคาประมาณ 9.78 นิวตัน ในขณะที่นํ้ าหนักของมวล 1 กิโลกรัม
ที่บริเวณขั้วโลกมีคาประมาณ 9.83 นิวตัน

ถ้าวัตถุมีมวลมากแล้ว โลกก็จะต้องออกแรงดึงดูดวัตถุนั้นมากด้วย วัตถุที่มีขนาดใหญ่นั้นก็จะมีน้ำหนักมากตามไปด้วย ในทำนองเดียวกันถ้าวัตถุนั้นมีมวลน้อย โลกก็จะออกแรงดึงดูดวัตถุนั้นน้อย วัตถุที่มีขนาดเบา ก็จะมีน้ำหนักน้อยเช่นกัน
น้ำหนัก คือแรงเนื่องจากแรงดึงดูดของโลกกระทำต่อวัตถุ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเราแขวนแอบเปิ้ลที่ตะขอของเครื่องชั่งสปริงแบบแขวน น้ำหนักของแอปเปิ้ลจะกรทำต่อสปริง แรงที่เกิดจากน้ำหนักของผลแอบเปิลจะกรทำต่อสปริงทำให้สปริงเปลี่ยนรูปร่างและขนาดได้

มนุษย์รู้จักธรรมชาติของแรงโน้มถ่วงของโลกมาเป็นเวลานานแล้ว และได้พัฒนาเครื่องมือ เครื่องใช้ ตลอดจนอุปกรณ์ต่างๆ ที่จะใช้ประโยชน์จากแรงโน้มถ่วง เช่น การใช้สามเกอตอกเสาเข็มซึ่งต่อมาได้พัฒนามาเป็นปั้นจั่น การใช้ประโยชน์จากการไหลของน้ำจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำไปหมุนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า การเล่นไม้ลื่นหรือกระดานลื่นก็อาศัยน้ำหนักตัวเรา ทำให้เคลื่อนที่ลงมาตามไม้ลื่นได้
การพัฒนารูปร่างของยานพาหนะก็ต้องคำนึงถึงน้ำหนักของยานพาหนะและน้ำหนักของสัมภาระที่จะบรรทุกด้วย เพราะถ้าบรรทุกน้ำหนักมาก พลังงานที่ใช้ในการเคลื่อนที่ของยานพาหนะก็จะสิ้นเปลืองมากด้วย การยกของและการเดินขึ้นสู่ที่สูงต้องออกแรงเพื่อเอาชนะแรงโน้มถ่วงของโลก จึงมีการพัฒนาเครื่องมือและอุปกรณ์ช่วยผ่อนแรง หรืออำนวยความสะดวก เช่น รอก ลิฟท์ เพื่อช่วยในการเคลื่อนที่ขึ้นสู่ที่สูงทำได้สะดวกและง่ายขึ้น










คำชี้แจง จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1.ข้อใดต่อไปนี้กล่าวได้ถูกต้อง
ก.แรงดึงดูดของโลกทำให้วัตถุตกสู่พื้นโลกเสมอ
ข.ทุกตำแหน่งบนพื้นโลกมีค่าแรงโน้มถ่วงเท่ากัน
ค.แรงดึงดูดที่โลกกระทำต่อวัตถุขึ้นอยู่กับมวลของวัตถุ
ง. ถูกทั้งข้อ ก และ ค
2.ข้อใดต่อไปนี้กล่าวได้ถูกต้อง
ก.แรงดึงดูดของโลกมีทิศเข้าสู่ศูนย์กลางของโลก
ข.มวลของสารไม่ขึ้นกับเนื้อของสาร
ค.น้ำหนักของวัตถุเท่ากับมวลของวัตถุเสมอ
ง.ถูกทุกข้อ
3.ข้อใดต่อไปนี้กล่าวได้ถูกต้อง
ก.ค่าแรงดึงดูดของโลกมีค่าเท่ากับ 9.8 เมตร/วินาที2
ข. มวล คือ ปริมาณของสารในวัตถุ
ค. น้ำหนัก คือ แรงเนื่องจากแรงดึงดูดของโลกที่กระทำต่อวัตถุ
ง. ถูกทุกข้อ
4.ข้อใดเป็นประโยชน์ของแรงโน้มถ่วง
ก.การใช้ปั่นจั่นตอกเสาเข็ม
ข.การเล่นไม้ลื่นหรือกระดานลื่น
ค.การผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังน้ำ
ง.ถูกทุกข้อ
5.การกระทำข้องมนุษย์ในข้อใดมีวัตถุประสงค์เพื่อเอาชนะแรงโน้มถ่วงของโลก
ก.การสร้างลิฟท์
ข.การสร้างบ้าน
ค.การใช้รถยนต์เพื่ออำนวยความสะดวก
ง.การเดินทางโดยเรือข้ามฟาก




[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] รายงานข่าวล่าสุด เมื่อวานนี้ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ได้ประกาศให้ผู้ใช้ทั่วโลกสามารถดาวน์โหลด Office 2010 เวอร์ชันทดลอง (Office 2010 beta) ไปใช้กันได้แล้ว โดยทางบริษัทคาดว่า น่าจะมีผู้ใช้ที่สนใจดาวน์โหลดไปลองใช้อย่างน้อย 1 ล้านราย

"ในกรณีที่คุณใช้ Office 2003 อยู่แล้วเกิดอยากลองใช้ Office 2010 คุณอาจจะรู้สึกว่า เหมือนเริ่มหัดใช้ซอฟต์แวร์กันใหม่เลยทีเดียว เนื่องจากส่วนติดต่อผู้ใช้ (User Interface) แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่ถ้าคุ้นเคยกับ Office 2007 อยู่แล้ว คุณจะสามารถใช้ออฟฟิศรุ่นใหม่ได้อย่างรวดเร็ว" Chris Capossela รองประธานอาวุโสแผนกธุรกิจของไมโครซอฟท์ กล่าว

เขายังกล่าวอีกด้วยว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่เกิดขึ้นในช่วงรอยต่อระหว่าง Office 2003 และ Office 2007 จะไม่ได้มีความแตกต่างของอินเตอร์เฟซมากนัก เมื่อขยับขึ้นมาใช้ Office 2010 แต่ผู้ใช้จะรู้สึกว่า มันใช้งานง่าย และมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ลงตัวกว่าเดิมมาก นอกจากนี้ Capossela ยังเชื่ออีกด้วยว่า ผู้ใช้จะต้องรู้สึกตื่นเต้นกับคุณสมบัติใหม่ๆ มากมายทีมาพร้อมกับออฟฟิศ 2010 อย่างเช่น


ฟังก์ชันใหม่สำหรับแก้ไขวิดีโอในสไลด์ของโปรแกรม PowerPoint
ฟังก์ชันร่วมแก้ไขเอกสารใน Word ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สองคนสามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงไฟล์เอกสารได้พร้อมกัน
การจัดการอีเมล์ใน Outlook และความสามารถในการผูกบัญชีผู้ใช้ Outlook เข้าไปในเว็บไซต์เครือข่ายสังคม (Social networks) ที่คุณชื่นชอบ
"นี่ถือเป็นอีกหนึ่งหลักไมล์ของโปรแกรม Office ที่ใครก็สามารถใช้งาน และสนุกไปกับคุณสมบัติต่างๆ ของซอฟต์แวร์ได้อย่างครบครัน" Capossela กล่าว สำหรับกำหนดการวางตลาดของ Office 2010 จะอยู่ในช่วงประมาณกลางปี 2010 ดาวน์โหลด Office 2010 เวอร์ชันทดลอง

ข้อมูลจาก: Channelweb
ที่มา
http://www.arip.co.th/news.php?id=410352

เป้าหมายการพัฒนาครูในการปฏิรูปการศึกษารอบสอง

รมว.ศธ.กล่าวว่า ครูถือเป็นหัวใจสำคัญอย่างยิ่งของการปฏิรูปการศึกษารอบสอง ซึ่งต้องได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยได้นำแนวทางการพัฒนาครูบรรจุไว้ตามนโยบายในการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง คือ"นโยบาย ๓ ดี ๔ ใหม่" (๓ดี คือ Democracy-Decency-Drug-free และ ๔ใหม่ คือ การสร้างคนไทยยุคใหม่-ครูยุคใหม่-แหล่งเรียนรู้และสถานศึกษายุคใหม่-ระบบบริหารจัดการแบบใหม่) นอกจากนี้ยังมีนโยบายต่างๆ ที่เป็นรูปธรรมทั้งในส่วนของการเพิ่มศักยภาพครู การให้คนเก่งเข้ามาเป็นครูมากขึ้น การเพิ่มขวัญกำลังใจให้ครู โดยขอยกตัวอย่างในบางโครงการที่ดำเนินการไปแล้วเพื่อให้เห็นภาพ ดังนี้
การอบรมพัฒนาครูขนานใหญ่ทั้งระบบ เดิมสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จัดอบรมพัฒนาครูเฉลี่ยปีละ ๒,๐๐๐ คนเท่านั้น ในขณะที่ครู สพฐ.มีจำนวนมากถึง ๔๕๐,๐๐๐ คน ดังนั้นเพื่อไม่ให้ความก้าวหน้าของโลกล้ำหน้าครูไปมากกว่านี้ จึงมีโครงการที่จะพัฒนาครูและผู้บริหารทุกคนในปีงบประมาณ ๒๕๕๓ โดยเฉพาะผู้บริหารสถานศึกษาจะเริ่มอบรมให้เสร็จในปีเดียว เพราะหากผู้บริหารสถานศึกษาไม่ได้เรื่องหรือไม่เข้าใจการปฏิรูปการศึกษาและการพัฒนาตนเองแล้ว จะกลายเป็นปัญหาสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาสถานศึกษานั้นๆ เพราะครูก็จะทำอะไรไม่ได้ สำหรับครูในบางวิชา เช่น วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ จะให้ทางศูนย์เรคแซม มาเลเซีย มาช่วยอบรมพัฒนาโดยนำระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยการอบรมในช่วงปิดเทอมนี้ ส่วนขั้นตอนการอบรมครูนั้นจะเน้นเป็นรายคน เพื่อเป็นการให้ยาถูกขนาน มีการทดสอบทั้งก่อนและหลังการอบรม มีการให้เกรดในการประเมินผล อบรมเสร็จแล้วจะมีสื่อการสอนสมัยใหม่ติดตัวไปด้วย โดยไม่ให้กลับไปมือเปล่า พร้อมมีระบบกำกับติดตามผลการอบรมด้วย โดย ศธ.จัดเตรียมงบประมาณไว้แล้ว ๘,๐๐๐ ล้านในการพัฒนาครูขนานใหญ่ทั้งระบบทุกสังกัดในปีนี้
ครูพันธุ์ใหม่ เดิมได้กำหนดเกรดเฉลี่ยผู้ที่จะเข้าเป็นครูพันธุ์ใหม่ไว้ที่ ๒.๗๕ แต่ตนเห็นว่าอยากได้เกรดเฉลี่ย ๓.๐ ขึ้นไป ซึ่งคงจะต้องนำไปหารือกันอีกภายหลัง อย่างไรก็ตามโครงการครูพันธุ์ใหม่นี้ได้รับความสนใจสอบถามจากเด็กๆ ผ่านรายการ Tutor Channel กันอย่างมากมาย
โครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด โดย ครม.ได้อนุมัติให้ข้าราชการที่เหลือ สพฐ.อีก ๑,๓๑๒ ราย ได้เข้าร่วมโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด โดยใช้งบประมาณของ สพฐ.ปี ๒๕๕๓ เจียดจ่ายช่วยเหลือไปก่อนประมาณ ๑๐๐ ล้านบาท และมีเงื่อนไขว่าเงินขวัญถุงจำนวน ๘-๑๕ เท่าของเงินเดือน ขอให้จ่ายเพียง ๙ เท่าก่อนในปี ๒๕๕๓ ส่วนที่เหลือจะจ่ายในปีงบประมาณ ๒๕๕๔
กรอบมาตรฐานคุณวุฒิ (TQF) เพื่อคุมคุณภาพการผลิตครูของสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่ผลิตครู ให้ได้คุณภาพและมาตรฐานมากขึ้น โดยจะเริ่มบังคับใช้ในต้นปี ๒๕๕๓
การผลิตครูเชิงปริมาณ ได้ให้ อ.วรากรณ์ สามโกเศศ รับผิดชอบเพื่อพิจารณาดูปริมาณครูและความต้องการครูในอนาคต ๑๐ ปีข้างหน้าว่าต้องผลิตครูจำนวนเท่าใด และควรผลิตสาขาใดบ้าง เพื่อให้สถาบันการอุดมศึกษาที่ผลิตครูทั้ง ๗๑ แห่งรับไปผลิตไม่ให้ซ้ำซ้อนกัน นอกจากนี้อีกส่วนที่กำลังประสบวิกฤตขาดแคลนอย่างมากคือ การผลิตครูของครู หรือผลิตผู้จบปริญญาโทและเอกไปสอนในคณะศึกษาศาสตร์/ครุศาสตร์
การประเมินวิทยฐานะครู ได้เริ่มใช้เกณฑ์ประเมินวิทยฐานะครูใหม่ตั้งแต่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๒ เพื่อใช้สำหรับวัดคุณภาพ ความสามารถ และผลงานอันเป็นที่ประจักษ์ ซึ่งกล่าวโดยสรุปก็คือ ประเมินครูให้เป็นคนเก่ง ดี มีผลงาน โดยค่าของการประเมิน ๖๐% จะวัดไปที่ผลสัมฤทธิ์ของนักเรียน ส่วนอีก ๔๐% ดูที่การวิจัยในห้องเรียนซึ่งโยงไปถึงผลสัมฤทธิ์ในห้องเรียนของนักเรียนด้วย
โครงสร้างเงินเดือนครู กำลังดำเนินการปรับระบบเพดานเงินเดือนครูจากปัจจุบันให้เท่ากับระบบเพดานเงินเดือนของ ก.พ. และเมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้แล้ว จะมีผลให้เพดานเงินเดือนขั้นสูงขั้นต่ำของครูเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย ๘%
การแยกประถม-มัธยมฯ เพื่อเน้นไปที่คุณภาพของการศึกษาเป็นหลัก ขณะนี้ความคืบหน้าอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา โดย ศธ.ได้เตรียมงบประมาณในการยกระดับคุณภาพของมัธยมฯ ๙,๐๐๐ ล้านบาท เพราะต้องยอมรับความจริงว่าปรัชญาการสอนของครูมัธยม-ประถมฯ ต่างกัน หากจะให้ครูมัธยมฯ ไปสอนเด็ก ป.๑ ก็เป็นคนละเรื่องกันเลย ไปไม่รอด นโยบายนี้ถือเป็นการแยกเพื่อคุณภาพ เป็นการใช้คนให้เหมาะกับงาน
อนาคตที่คิดจะทำต่อไป อย่างน้อย ๒ เรื่อง คือ การพัฒนาสถาบันการผลิตและพัฒนาครูฯ จ.นครปฐม ให้เป็นเสมือนสถาบันที่ผลิตนายอำเภอ สถาบันพระปกเกล้า โดยจะให้เป็นศูนย์กลางในอบรมผู้บริหารก่อนเข้าสู่ตำแหน่งหลังจากผ่านการสอบคัดเลือกแล้ว เพื่อเป็นการพัฒนาภาวะผู้นำและศักยภาพในการบริหาร ส่วนอีกเรื่องหนึ่งคือ การตั้งสถาบันคุรุศึกษา ซึ่งคงจะเกิดขึ้นได้ยาก เพราะคนเห็นด้วยจำนวนน้อยมาก จึงได้พิจารณาดำเนินการไปในรูปแบบคณะกรรมการคุรุศึกษาแทน

วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

สารละลาย สารคอลลอยด์ และสารแขวนลอย
สารละลาย คอลลอยด์ สารแขวนลอยเมื่อผสมสารตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไป อาจจะได้เป็นสารเนื้อเดียว หรือสารเนื้อผสมก็ได้ ขึ้นอยู่กับชนิดของสารที่จะนำมาผสมกันว่าจะรวมกันเป็นเนื้อเดียวกันได้หรือไม่ สำหรับสารที่รวมกันเป็นเนื้อเดียว ภายในสารผสมนั้น อนุภาคของสารหนึ่งจะแทรกอยู่ระหว่างอนุภาคของอีกสารหนึ่งอย่างสม่ำเสมอ จนการสังเกตด้วยตาเปล่าอย่างเดียวจะบอกความแตกต่างของสารผสมเนื้อเดียวเหล่านั้นไม่ได้ สารเหล่านั้นอาจจะเป็นสารละลาย คอลลอยด์ หรือสารแขวนลอย ซึ่งมีสมบัติบางอย่างคล้ายกัน แต่มีขนาดของอนุภาคที่แตกต่างกัน1. สมบัติบางประการของสารละลาย คอลลอยด์ และสารแขวนลอยสารละลาย หรือ สารละลายแท้ (Ture solution) หมายถึง สารผสมเนื้อเดียวที่อนุภาคของตัวถูกละลายจะมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางน้อยกว่า 10-7 เซนติเมตร (หรือ 0.001 ไมโครเมตรหรือ 10 อังสตรอม) เช่นสารละลายคอปเปอร์ (II) ซัลเฟต, สารละลายกรดไนตริก , สารละลายกรดซัลฟูริก , สารละลายโซเดียมคลอไรด์ (เกลือแกง ) เป็นต้นคอลลอยด์ (Colloid) มาจากภาษากรีก Kolla + Eidos ซึ่งหมายถึงสารที่มีลักษณะคล้ายกาว เช่น นมสด วุ้น เยลลี่ เป็นต้นคอลลอยด์ (Colloid) หมายถึง สารผสมเนื้อเดียวที่มีอนุภาคของตัวถูกละลาย หรืออนุภาคของสารมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ระหว่าง 10-7 - 10-4 เซนติเมตรสารแขวนลอย (Suspension) หมายถึง สารผสม ที่ประกอบด้วยอนุภาคที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 10-4 เซนติเมตร (หรือ 1 ไมโครเมตร) กระจายอยู่ ถ้าอนุภาคที่อยู่ในสารแขวนลอยมีขนาดใหญ่มากจะมองเห็นส่วนผสมได้ชัดเจน ซึ่งเมื่อวางทิ้งไว้อนุภาคของสารแขวนลอยจะตกตะกอนออกมา แต่ถ้าอนุภาคมีขนาดเล็กจะกระจายแบบกลมกลืนจนดูเสมือนเป็นเนื้อเดียวกัน ซึ่งทำให้แยกออกได้ยากกว่าเป็นสารแขวนลอยหรือคอลลอยด์ดังนั้นสารละลาย คอลลอยด์ และสารแขวนลอยจึงแบ่งได้โดยอาศัยขนาดของอนุภาคเป็นเกณฑ์ ซึ่งขนาดของสารแขวนลอย > คอลลอยด์ > สารละลาย2.การกรองผ่านกระดาษกรองและเซลโลเฟนถึงแม้ว่าสารแขวนลอยมีขนาดใหญ่ที่สุด แต่บางครั้งก็ดูกลมกลืนจนตัดสินด้วยตาเปล่าไม่ได้ ในทางปฏิบัติจึงใช้วิธีตรวจสอบขนาดของอนุภาคโดยใช้กระดาษกรองและเซลโลเฟนกระดาษกรอง จะกรองอนุภาคที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 10-4 เซนติเมตรขึ้นไปเซลโลเฟน จะกรองอนุภาคที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 10-7 เซนติเมตรขึ้นไปก. สารละลาย จะกรองผ่านได้ทั้งกระดาษกรอง และเซลโลเฟน เพราะมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเล็กกว่า 10-7 เซนติเมตรข. คอลลอยด์ จะกรองผ่านกระดาษกรองได้ แต่กรองผ่านเซลโลเฟนไม่ได้ เพราะมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่กว่า 10-7 เซนติเมตร(จึงผ่านเซลโลเฟนไม่ได้) และเล็กกว่า 10-4 เซนติเมตร(จึงผ่านกระดาษกรองได้) นั่นคือมีขนาดอนุภาคอยู่ระหว่าง 10-7 - 10-4 เซนติเมตรค. สารแขวนลอย จะกรองผ่านกระดาษกรองและเซลโลเฟนไม่ได้ เพราะมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่กว่า 10-4 เซนติเมตรสาร1.สสาร (Matter) หมายถึง สิ่งที่มีมวล ต้องการที่อยู่และสัมผัสได้มี 3 สถานะ คือ ของแข็ง ของเหลว และก๊าซ1.1) ของแข็ง หมายถึง สารที่มีรูปร่างขอบเขตที่แน่นอน โมเลกุลอยู่ชิดกันมากที่สุด1.2) ของเหลว หมายถึง สารที่มีรูปร่างเปลี่ยนไปตามภาชนะที่บรรจุ โมเลกุลอยู่ห่างกันมากกว่า ของแข็ง1.3) ก๊าซ หมายถึง สารที่มีรูปร่างไม่แน่นอน เนื่องจากแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลน้อยมาก2.สาร (Substance) หมายถึง สสารนั่นเอง สสารเป็นคำรวมๆ แต่ถ้าพิจารณาวัตถุชนิดใดชนิดหนึ่งโดยเฉพาะเรียกว่าสาร เช่น กระป๋องเป็นสสาร แต่เนื้อกระป๋องเป็นโลหะจัดเป็นสาร สารแบ่งตามลักษณะเนื้อสารได้ 2 ชนิดดังนี้2.1) สารเนื้อเดียวหมายถึง สารที่มีลักษณะเป็นเนื้อเดียวกันทุกส่วน มีสมบัติเหมือนกันไม่ว่าจะพิจารณาส่วนใดของสาร จะมองด้วยตาเปล่า หรือแว่นขยายแล้วเห็นเป็นเนื้อเดียวกันโดยตลอดเนื้อสาร เช่น น้ำหวาน น้ำเกลือ เป็นต้น2.2) สารเนื้อผสมหมายถึง สารที่เกิดจากการรวมกันของสารตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไป โดยไม่ผสมกลมกลืนกัน แต่ละส่วนมีสมบัติต่างกัน หรือคือสารที่มองด้วยตาเปล่าแล้วเป็นเนื้อผสม เช่น พริกผสมเกลือ เป็นต้น3.สมบัติของสาร หมายถึง ลักษณะประจำตัวของสาร เช่น สถานะ สี กลิ่น รส การละลาย การนำไฟฟ้า จุดเดือด และการเผาไหม้ เป็นต้น สารแต่ละชนิดมีสมบัติไม่เหมือนกันทุกประการ สามารถนำมาจัดจำแนกสารเป็นหมวดหมู่ได้ สมบัติของสารได้แก่ สี กลิ่น รส จุดเดือด จุดหลอมเหลว การนำไฟฟ้า การเป็นสนิม ความเป็นกรด-เบส โดยทั่งไปสมบัติของสารจำแนกได้ 2 ประเภท คือก. สมบัติทางกายภาพ หมายถึง สมบัติเฉพาะตัวของสารที่สามารถสังเกตเห็นได้ง่ายจากลักษณะภายนอก หรือจากการทดลองง่ายๆ โดยไม่เกี่ยวข้องกับการเกิดปฏิกิริยาเคมี ตัวอย่างทางกายภาพได้แก่ สถานะ รูปร่าง สี กลิ่น รส การละลาย จุดเดือด จุดหลอมเหลว ความหนาแน่น การนำความร้อน การนำไฟฟ้า ความร้อนแฝง ความถ่วงจำเพาะ เป็นต้นข. สมบัติทางเคมี หมายถึง สมบัติเฉพาะตัวของสารที่เกี่ยวข้องกับการเกิดปฏิกิริยาเคมี เช่น การเกิดสารใหม่ การสลายตัวให้ได้สารใหม่ การเผาไหม้ การระเบิด และการเกิดสนิมของโลหะ เป็นต้น ในการศึกษาสมบัติของสารนั้น สมบัติบางประการสามารถสังเกตได้จากลักษณะภายนอก และบางประการต้องทดลองจึงจะสังเกตเห็นได้ เช่น กำมะถัน และอะลูมิเนียมซัลไฟด์มีสมบัติหลายประการที่เหมือนกัน แต่ก็มีสมบัติหลายประการที่แตกต่างกันเขียนโดย เด็กชายจเร เขาวิเศษ 1/3 โรงเรียนเมืองเชลียง ที่ 5:20 ก่อนเที่ยง 0 ความคิดเห็น สมัครสมาชิก: บทความ (Atom)
เขียนโดย เด็กชายจเร เขาวิเศษ 1/3 โรงเรียนเมืองเชลียง ที่ 7:43 หลังเที่ยง 0 ความคิดเห็น

จอห์น เบียร์ดประวัติจอห์น โลกี้ เบียร์ด เกิดในปีค.ศ.1888 เป็นบุตรชายของเสมียนที่เข้มงวด ในวัยเด็กเขามักจะเจ็บป่วยเสมอ และไม่ชอบไปโรงเรียนแต่กลับชอบประดิษฐ์ สิ่งต่างๆอาทิเช่นเครื่องร่อนที่ทำให้เขาบาดเจ็บเพราะตกจากหลังคาบ้านหลัง จากเรียนจบวิศวกรรมไฟฟ้าจากกลาสโกว์แล้วก็เข้าทำงานเป็นผู้ช่วยวิศวกร อยู่พักหนึ่ง ก็ต้องออกจากงานเพราะหยุดงานบ่อยครั่งเนื่องจากอาการป่วย จึงทำการหาเลี้ยงชีพโดยวิธีอื่น อาทิเช่นทำของขาย เช่น แยม และสบู่ แต่ก็ ประสบความล้มเหลว แรงบันดาลใจให้จอห์น เบียร์ด คิดสร้างโทรทัศน์ ก็เนื่องจากการที่กูกิเอลโม มาร์โคนีได้ประดิษฐ์เครื่องสัญญาณและรับสัญญาณ วิทยุทางไกลเป็นผลสำเร็จ ความคิดนี้ทำให้เบียร์ด จินตนาการถึงการส่งภาพ ด้วยคลื่น วิทยุขึ้นมาบ้างนักวิทยาศาสตร์หลายคนได้ค้นพบว่าเมื่อแสงตกลงบนวัตถุ ที่ไวต่อแสงที่เรียกว่า ซีเลเนี่ยม จะทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าขึ้น ถ้าแสงสว่างมาก ขึ้นกระแสไฟฟ้าก็แรงขึ้นด้วย ภาพถ่ายที่ดีมักจะมีบริเวณสว่างและเงาที่มี ความเข้มต่างๆ กัน ดังนั้นถ้านำภาพถ่ายมาวางใกล้แผ่นซีเลเนียมและลำแสง ส่องไปยังภาพถ่ายและเคลื่อนที่ไปทั่วๆ ภาพ ส่วนสว่างและมืดของภาพจะทำให้ เกิดกระแสไฟฟ้ากำลังต่างๆ กันจากแผ่นซีเลเนียมวิธีการนี้เรียกว่า กวาดภาพจากนั้นกระแสไฟฟ้าจะป้อนไปยังเครื่องแปลงสัญญาณจับสัญญาณ เหล่านี้แล้วเปลี่ยนให้เป็นแสงอีก ทำให้เกิดภาพเดิมขึ้นอีก วิธีนี้เป็นการ ผลิตภาพนิ่งซึ่งเป็นวิธีที่หนังสือพิมพ์ได้รับภาพข่าวจากทั่วโลก แต่สำหรับ โทรทัศน์ภาพต้องมีการเคลื่อนไหว เราได้อ่านวิธีการทำให้เห็นภาพเคลื่อนไหว ในภาพยนตร์ที่ฉายบนจอโดยการฉายภาพหลายๆ ภาพติดต่อกันให้มีความเร็ว พอที่ตามนุษย์จะมองไม่เห็นรอยต่อระหว่างภาพทำให้เกิดความรู้สึกว่า เป็นภาพที่ต่อเนื่องในโทรทัศน์ก็ใช้วิธีการเดียวกันนั้น แต่มีปัญหาที่ว่าต้อง กวาดภาพไป และเปลี่ยนให้เป็นกระแสไฟฟ้าเปลี่ยนสัญญาณและเปลี่ยนกลับ เป็นภาพซึ่งต้องทำให้ได้ 20 ภาพต่อวินาที เพื่อให้เห็นภาพการเคลื่อนไหวนั้น ต่อเนื่องกัน เบียร์ดทำงานในห้องนอน เขาสร้างเครื่องโทรทัศน์เป็นเครื่อง แรกในปีค.ศ.1925 และกวาดภาพด้วยจานใบหนึ่งซึ่งเขาเจาะรูหลายๆ รูแล้ว หมุนจานอย่างเร็วบนแกนซึ่งใช้เข็มถักไหมพรม เขาฉายแสงไปบนจานที่ หมุนทำให้ส่องภาพไปตามลำดับและเปลี่ยนแสงเล่านั้น ให้เป็นกระแสไฟฟ้า ซึ่งจะถูกเปลี่ยนกลับให้เป็นภาพในเครื่องรับสัญญาณว่างอยู่ห่างจาก เครื่องส่งเพียง 1 เมตรกว่า หลังจากการทำงานนี้ไม่นานเขาก็เดินทาง ไปร้านเซลฟริดจ์ในลอนดอนแล้วสาธิตให้เจ้าของชม ในปีค.ศ.1925 เจ้าของร้าน ทำสัญญาจ้างให้เขาออกโทรทัศน์วันละ 3 รายการในร้านภาพที่เห็นไม่ชัดนัก แต่เครื่งก็ทำงานได้ และประขาสชนให้ความสนใจ ในปีต่อมาเขาสาธิตให้ หนังสือพิมพ์ชม จากนั้นเขาไปยัง บีบีซี และถึงแม้ว่าภาพของเขาจะไม่ ชัดเจนแต่บีบีซีก็ให้กำลังใจสนับสนุน ในปีค.ศ.1929 มีรายการโทรทัศน์ของบีบีซีส่งออกอากาศ และเริ่มถ่ายทอด การแสดงละครทางโทรทัศน์ในปีต่อมาได้มีการถ่ายทอดการแข่ง ม้าเดอร์บี้ทางโทรทัศน์ในกรุงลอนดอน จอห์น เบียร์ด ถึงแก่กรรมด้วย โรคไข้หวัดใหญ่ขณะที่เขากำลังคิดและพัฒนาในการส่งภาพเป็นสีในปีค.ศ.1946ผลงาน-เป็นผู้ประดิษฐ์เครื่องรับโทรทัศน์เครื่องแรกของโลก
เขียนโดย เด็กชายจเร เขาวิเศษ 1/3 โรงเรียนเมืองเชลียง ที่ 7:41 หลังเที่ยง 0 ความคิดเห็น

หลุยส์ ปาสเตอร์เกิดในปี ค.ศ.1822 ที่เมืองเล็กๆในประเทศฝรั่งเศส บิดาของเขาต้องการให้หลุยส์ เป็นครูจึงส่งเข้าไปเรียนที่กรุงปารีส จนสำเร็จการศึกษาและได้เป็นอาจารย์สอนมหาวิทยาลัยเมื่ออายุได้32ปี จุลชีพเป็นสิ่งที่ปาสเตอร์สนใจมากทุกคนรู้ว่าเนื้อจะเน่าเปื่อยหากทิ้ง เนื้อไว้กลางแจ้งและทุกคนสามารถมองเห็นตัวจุลชีพในเนื้อได้ด้วย กล้องจุลทรรศน์ที่มีกำลังขยายมากแต่ไม่มีใครรู้ว่าจุลชีพมาจากที่ใด นักวิทยาศาสตร์หัวโบราณคิดว่าเนื้อเน่าทำให้เกิดพวกมัน แต่ปาสเตอร์ ไม่ค่อยแน่ใจนัก เขากลับไปยังวิทยาลัยที่เคยเรียนในกรุงปารีสซึ่งเขา ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการทางวิชาวิทยาศาสตร์ เขาใช้เวลา ทั้งหมดของเขาทำการค้นคว้าเรื่องจุลชีพ ในที่สุดหลุยส์ก็ค้นพบว่า จุลชีพนั้นเกิดจากฝุ่นละอองที่ลอยอยู่ในอากาศมิใช่มาจากอาหารที่ บูดเน่า เขาพิสูจน์โดยการนำเอาขวดซุปเนื้อขึ้นไปบนภูเขาแอลป์ซึ่ง มีอากาศบริสุทธิ์และไม่มีฝุ่นละอองเขาเปิดขวดเหล่านั้นและปล่อยทิ้งไว้ เขาพูดถูกน้ำซุปไม่เสีย บนหิ้งต่างๆของพิพิธภัณฑ์ปาสเตอร์ในกรุงปารีส มีขวดปิดไว้ซึ่งจัดทำขึ้นโดยปาสเตอร์น้ำซุปเนื้อในนั้นยังคงไม่บูดเน่า หลังจากนานกว่าร้อยปี การค้นคว้านี้ทำให้เกิดอาหารกระป๋องที่เรา รู้จักกันทุกวันนี้ ต่อมาปาสเตอร์ได้ทำการทดลองเพื่อหาวิธีรักษา โรคกลัวน้ำ หลังจากทำการทดลองที่เสี่ยงอันตรายหลายครั้งเขาก็ ประสบผลสำเร็จซึ่งการค้นพบวิธีรักษาโรคกลัวน้ำใหความหวังแก่ ผู้คนในหลายประเทศ หลุยส์ ปาสเตอร์ถึงแก่กรรมในปี ค.ศ.1895 มีผู้คนมากมายโศกเศร้าต่อการเสียชีวิตของเขา เขาไม่เพียงแต่เป็น นักวิทยาศาสตร์เท่านั้นแต่ยังเป็นบุคคลสำคัญอีกด้วยผลงาน-ค้นพบวิธีรักษาสิ่งของไม่ให้เน่าเสียโดยวิธีพาสเจอร์ไรซ์-ค้นพบวัคซีนในการรักษาโรคพิษสุนัขบ้าอัลเบิรต์ ไอสไตน์ประวัติไอน์สไตน์เกิดที่เมืองอูลม์ ประเทศ เยอรมันนี เมื่อ วันที่ 14 มีนาคม ค.ศ.1879 ปีต่อมาครอบครัวของเขาก็ได้ย้ายจากเมืองอูลม์ไปอยู่มิวนิค เขามีจิตใจรักทางดนตรีและสามารถสีไวโอลินได้ดีเมื่อมีอายุเพียง 6ปี พอมีอายุได้ 12ปี เขาก็สามารถเรียนรู้คณิตศาสตร์ได้ด้วยตนเอง ด้วยความที่เขาเรียนเก่งทางคณิตศาสตร์และฟิสิกส์เขาจึงสอบเข้าเรียนที่ The Federal Institute of Technology ในซูริคประเทศสวิสเซอร์แลนด์ หลังจากจบการศึกษาในปี 1900ไอน์สไตน์ก็ทำงานเป็นครูสอนทาง ไปรษณีย์อยู่2ปีจึงได้ทำงานเป็นผู้งชาญทางเทคโนโลยีในสถาบัน แห่งหนึ่งในกรุงบอร์น ไอน์สไตน์ได้รับรางวัลสาขาฟิสิกส์ในปี1921 ขณะที่เขาอยู่ในสหรัฐอเมริกาเป็นช่วงเวลาที่ฮิตเลอร์เรืองอำนาจและทำ การกวาดล้างชาวยิวไอน์สไตน์ซึ่งมีเชื้อสายยิวจึงถูกปลดออกจากการเป็น พลเมืองชาวเยอรมันเขาจึงตกลงใจจะอยู่ในสหรัฐโดยทำงานอยู่ที่สถาบัน การศึกษาในปรินซ์ตัน นิวเจอร์ซี และได้สัญชาติอเมริกันในปี1941 ไอน์สไตน์ ได้รับการยกย่องอย่างสูงก็โดยเหตุที่เขาให้ทฤษฎีแห่งความ สัมพันธ์ซึ่งเป็นทฤษฎีโดยเฉพาะสำหรับปฏิบัติกับวิชาเคลื่อนที่ของไฟฟ้า และทรรศนะศาสตร์ นอกจากนี้เขายังได้ชื่อว่าเป็นผู้มีความสำคัญ อันเป็นประโยชน์ต่อทฤษฎี Quantum และทฤษฎีทั่วไปที่เกี่ยวกับ ความโน้มถ่วง ตลอดชีวิตของเขาได้ทำคุณประโยชน์ให้แก่วงการ วิทยาศาสตร์ในปัจจุบันไว้อย่างมากมาย ไอน์สไตน์ถึง แก่กรรมเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 1955ผลงาน-เป็นผู้ให้กำเนิด "ระเบิดปรมาณู"-เป็นเจ้าของทฤษฎีแห่งความสัมพันธ์-ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ในปี ค.ศ. 1921เซอร์ ไอแซค นิวตันประวัติเซอร์ไอแซค นิวตันเกิดเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 1642 ที่ลินคอล์นเชียร์ อังกฤษมในสมัยที่เป็นเด็กไม่ค่อยสนใจในการเรียนนัก ชอบทางด้านเครื่องจักร เครื่องกล แต่พออายุได้ 15 ปี เขากลับเอาใจใส่การศึกษามากขึ้น พอบิดาของเขาถึงแก่กรรมลง มารดาก็ตั้งใจจะให้เขาทำงานในฟาร์มเหมือนบิดา แต่เขาไม่ชอบ นิวตันเป็นคนไม่ชอบเพื่อน ฉะนั้นเขาจึงมีเวลามากพอที่จะหมกมุ่นอยู่กับตำราเป็นส่วนใหญ่ เขาเริ่มคิดประดิษฐ์สิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ ขึ้น เป็นต้นว่า โรงสีลมเล็กๆ ซึ่งใช้กำลังงานกระแสลมทำให้เครื่องจักรหมุน และสร้างนาฬิกาน้ำโดยให้หยดลงมาในถังแล้วสังเกตระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นมา พอนิวตันจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ เมื่อ ปี 1665 เขาก็ทำงานเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยนี้พอเกิด โรคระบาด มหาวิทยาลัยปิดชั่วคราว นิวตันจึงกลับไปทำงานส่วนตัวที่บ้าน ในช่วงเวลานั้นเป็นระยะที่เขาได้ความคิดเกี่ยวกับงานสำคัญของเขาในเวลา ต่อมาหลายเรื่อง เมื่อเขาทำงานเงียบๆ ด้วยตัวเอง คิดถึงสิ่งต่างๆ ที่เขาได้สังเกตและสามารถเห็นเหตุผลที่ทำให้เกิดขึ้น ซึ่งคนอื่นมองเห็นเป็นเรื่องธรรมดาเช่น การสัเกตการหล่นของผลแอปเปิ้ล ที่ให้เขาได้ความคิดเกี่ยวกับแรงโน้มถ่วง ซึ่งเป็นแรงดึงดูดทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกและเป็นแรงที่ทำให้ โลก ดวงจันทร์ ดาวเคราะห์ และต่างๆ อยู่ในระบบสุริยะ คนที่ไปมองเห็นสีของรุ้งกินน้ำในท้องฟ้า แต่นิวตันรู้และสามารถพิสูจน์ได้ว่า แสงที่เราเห็นว่า ไม่มีสีหรือที่เรียกว่ามีสีขาวเกิดจากสีรุ้งนั่นเอง นิวตันเป็นคนที่อ่อนไหว เขาไม่ชอบการขัดแย้งกัน และมักจะโกรธต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เขาไม่ได้ตี พิมพ์เรื่องแรงโน้มถ่วงเป็นเวลาหลายปี ในระหว่างนั้นเขาได้ศึกษาวิธีที่สร้างกล้องโทรทรรศน์ และเมื่อเขากลับไปเคมบริดจ์ เขาได้สร้างกล้องโทรทรรศน์แบบใหม่ แบบมีตัวสะท้อนแสง แล้วกล้องโทรทรรศน์นี้ ทำให้เขามีชื่อเสียงและได้รับเชิญให้เข้าร่วมในราชสมาคมชั้นนำของนักวิทยาศาสตร์ในประเทศอังกฤษ แต่โรเบิร์ต ฮุค ซึ่งเป็นสมาชิกคนหนึ่งของสมาคมได้วิจารณ์ความคิดของเขาเกี่ยวกับธรรมชาติของแสง นิวตันและฮุคจึงไม่เคยเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันอีกเลย นิวตันยังมีความสนใจในสิ่งนอกเหนือไปจากวิทยาศาสตร์ เขาได้เป็นสมาชิกรัฐสภาในช่วงเวลาสั้นๆ จากนั้นในปี 1699 เขาก็ได้เป็นหัวหน้ากองกษาปณ์ของราชสำนัก ซึ่งผลิดเหรียญที่ใช้กันในประเทศถึงแม้ว่าเขาจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่สำคัญ แต่เขาก็มีความคิด บางอย่างที่แปลกประหลาด เช่น เขาเชื่อในเรื่องโหราศาสคร์ เชื่อในทฤษฏีที่ดวงดาวมีอิทธิพลต่อโชคชะตาของคน เขาได้ศึกษาเกี่ยวกับการเล่นแร่แปรธาตุ ซึ่งเชื่อกันว่าจะสามารถเปลี่ยนโลหะเช่น ทองแดงให้เป็นทองได้ ในสมัยของนิวตัน ผู้คนมีเชื่อกันเช่นนี้มาก ซึ่ง ในปัจจุบันเราทราบว่าเป็นเรื่องไร้สาระ ไอแซค นิวตัน เป็นบุคคลที่มุ่งทำประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าชีวิตของตนเอง เขามีความสุขอยู่กับการทดลอง วิทยาศาสตร์และการคำนวณภายในห้องทดลองของเขายิ่งกว่าอื่นใด เขาได้รับพระราชทานบรารดาศักดิ์เป็นท่าน " เซอร์"เมื่อมีอายุร่วม 60 ปีแล้วเซอร์ ไอแซคนิวตัน ถึ่งแก่กรรมเมื่ออายุได้ 84 ปี และถูกฝังในสุสานวิหารเวสมินสเตอร์ ซึ่งในปัจุบันนี้มีอนุสาวรีย์ของเขาตั้งอ่ยู่ แม้ว่ามทุกคนจะระลึกถึงเขาว่าเป็น บุคคลสำคัญคนหนี่ง แต่ตัวเขาเคยพูดว่า ฉันมองได้ไกลกว่าคนส่วนใหญ่ก็เพราะฉันยืนอยู่บนไหล่ของยักษ์ผลงาน-เป็นผู้พบแรงดึงดูดของโลก-เป็นผู้สร้างกล้องโทรทรรศน์ชนิดสะท้อนแสง
เขียนโดย เด็กชายจเร เขาวิเศษ 1/3 โรงเรียนเมืองเชลียง ที่ 7:29 หลังเที่ยง 0 ความคิดเห็น
วันศุกร์, สิงหาคม 14, 2009

สารละลาย สารคอลลอยด์ และสารแขวนลอย
สารละลาย คอลลอยด์ สารแขวนลอยเมื่อผสมสารตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไป อาจจะได้เป็นสารเนื้อเดียว หรือสารเนื้อผสมก็ได้ ขึ้นอยู่กับชนิดของสารที่จะนำมาผสมกันว่าจะรวมกันเป็นเนื้อเดียวกันได้หรือไม่ สำหรับสารที่รวมกันเป็นเนื้อเดียว ภายในสารผสมนั้น อนุภาคของสารหนึ่งจะแทรกอยู่ระหว่างอนุภาคของอีกสารหนึ่งอย่างสม่ำเสมอ จนการสังเกตด้วยตาเปล่าอย่างเดียวจะบอกความแตกต่างของสารผสมเนื้อเดียวเหล่านั้นไม่ได้ สารเหล่านั้นอาจจะเป็นสารละลาย คอลลอยด์ หรือสารแขวนลอย ซึ่งมีสมบัติบางอย่างคล้ายกัน แต่มีขนาดของอนุภาคที่แตกต่างกัน1. สมบัติบางประการของสารละลาย คอลลอยด์ และสารแขวนลอยสารละลาย หรือ สารละลายแท้ (Ture solution) หมายถึง สารผสมเนื้อเดียวที่อนุภาคของตัวถูกละลายจะมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางน้อยกว่า 10-7 เซนติเมตร (หรือ 0.001 ไมโครเมตรหรือ 10 อังสตรอม) เช่นสารละลายคอปเปอร์ (II) ซัลเฟต, สารละลายกรดไนตริก , สารละลายกรดซัลฟูริก , สารละลายโซเดียมคลอไรด์ (เกลือแกง ) เป็นต้นคอลลอยด์ (Colloid) มาจากภาษากรีก Kolla + Eidos ซึ่งหมายถึงสารที่มีลักษณะคล้ายกาว เช่น นมสด วุ้น เยลลี่ เป็นต้นคอลลอยด์ (Colloid) หมายถึง สารผสมเนื้อเดียวที่มีอนุภาคของตัวถูกละลาย หรืออนุภาคของสารมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ระหว่าง 10-7 - 10-4 เซนติเมตรสารแขวนลอย (Suspension) หมายถึง สารผสม ที่ประกอบด้วยอนุภาคที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 10-4 เซนติเมตร (หรือ 1 ไมโครเมตร) กระจายอยู่ ถ้าอนุภาคที่อยู่ในสารแขวนลอยมีขนาดใหญ่มากจะมองเห็นส่วนผสมได้ชัดเจน ซึ่งเมื่อวางทิ้งไว้อนุภาคของสารแขวนลอยจะตกตะกอนออกมา แต่ถ้าอนุภาคมีขนาดเล็กจะกระจายแบบกลมกลืนจนดูเสมือนเป็นเนื้อเดียวกัน ซึ่งทำให้แยกออกได้ยากกว่าเป็นสารแขวนลอยหรือคอลลอยด์ดังนั้นสารละลาย คอลลอยด์ และสารแขวนลอยจึงแบ่งได้โดยอาศัยขนาดของอนุภาคเป็นเกณฑ์ ซึ่งขนาดของสารแขวนลอย > คอลลอยด์ > สารละลาย2.การกรองผ่านกระดาษกรองและเซลโลเฟนถึงแม้ว่าสารแขวนลอยมีขนาดใหญ่ที่สุด แต่บางครั้งก็ดูกลมกลืนจนตัดสินด้วยตาเปล่าไม่ได้ ในทางปฏิบัติจึงใช้วิธีตรวจสอบขนาดของอนุภาคโดยใช้กระดาษกรองและเซลโลเฟนกระดาษกรอง จะกรองอนุภาคที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 10-4 เซนติเมตรขึ้นไปเซลโลเฟน จะกรองอนุภาคที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 10-7 เซนติเมตรขึ้นไปก. สารละลาย จะกรองผ่านได้ทั้งกระดาษกรอง และเซลโลเฟน เพราะมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเล็กกว่า 10-7 เซนติเมตรข. คอลลอยด์ จะกรองผ่านกระดาษกรองได้ แต่กรองผ่านเซลโลเฟนไม่ได้ เพราะมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่กว่า 10-7 เซนติเมตร(จึงผ่านเซลโลเฟนไม่ได้) และเล็กกว่า 10-4 เซนติเมตร(จึงผ่านกระดาษกรองได้) นั่นคือมีขนาดอนุภาคอยู่ระหว่าง 10-7 - 10-4 เซนติเมตรค. สารแขวนลอย จะกรองผ่านกระดาษกรองและเซลโลเฟนไม่ได้ เพราะมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่กว่า 10-4 เซนติเมตรสาร1.สสาร (Matter) หมายถึง สิ่งที่มีมวล ต้องการที่อยู่และสัมผัสได้มี 3 สถานะ คือ ของแข็ง ของเหลว และก๊าซ1.1) ของแข็ง หมายถึง สารที่มีรูปร่างขอบเขตที่แน่นอน โมเลกุลอยู่ชิดกันมากที่สุด1.2) ของเหลว หมายถึง สารที่มีรูปร่างเปลี่ยนไปตามภาชนะที่บรรจุ โมเลกุลอยู่ห่างกันมากกว่า ของแข็ง1.3) ก๊าซ หมายถึง สารที่มีรูปร่างไม่แน่นอน เนื่องจากแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลน้อยมาก2.สาร (Substance) หมายถึง สสารนั่นเอง สสารเป็นคำรวมๆ แต่ถ้าพิจารณาวัตถุชนิดใดชนิดหนึ่งโดยเฉพาะเรียกว่าสาร เช่น กระป๋องเป็นสสาร แต่เนื้อกระป๋องเป็นโลหะจัดเป็นสาร สารแบ่งตามลักษณะเนื้อสารได้ 2 ชนิดดังนี้2.1) สารเนื้อเดียวหมายถึง สารที่มีลักษณะเป็นเนื้อเดียวกันทุกส่วน มีสมบัติเหมือนกันไม่ว่าจะพิจารณาส่วนใดของสาร จะมองด้วยตาเปล่า หรือแว่นขยายแล้วเห็นเป็นเนื้อเดียวกันโดยตลอดเนื้อสาร เช่น น้ำหวาน น้ำเกลือ เป็นต้น2.2) สารเนื้อผสมหมายถึง สารที่เกิดจากการรวมกันของสารตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไป โดยไม่ผสมกลมกลืนกัน แต่ละส่วนมีสมบัติต่างกัน หรือคือสารที่มองด้วยตาเปล่าแล้วเป็นเนื้อผสม เช่น พริกผสมเกลือ เป็นต้น3.สมบัติของสาร หมายถึง ลักษณะประจำตัวของสาร เช่น สถานะ สี กลิ่น รส การละลาย การนำไฟฟ้า จุดเดือด และการเผาไหม้ เป็นต้น สารแต่ละชนิดมีสมบัติไม่เหมือนกันทุกประการ สามารถนำมาจัดจำแนกสารเป็นหมวดหมู่ได้ สมบัติของสารได้แก่ สี กลิ่น รส จุดเดือด จุดหลอมเหลว การนำไฟฟ้า การเป็นสนิม ความเป็นกรด-เบส โดยทั่งไปสมบัติของสารจำแนกได้ 2 ประเภท คือก. สมบัติทางกายภาพ หมายถึง สมบัติเฉพาะตัวของสารที่สามารถสังเกตเห็นได้ง่ายจากลักษณะภายนอก หรือจากการทดลองง่ายๆ โดยไม่เกี่ยวข้องกับการเกิดปฏิกิริยาเคมี ตัวอย่างทางกายภาพได้แก่ สถานะ รูปร่าง สี กลิ่น รส การละลาย จุดเดือด จุดหลอมเหลว ความหนาแน่น การนำความร้อน การนำไฟฟ้า ความร้อนแฝง ความถ่วงจำเพาะ เป็นต้นข. สมบัติทางเคมี หมายถึง สมบัติเฉพาะตัวของสารที่เกี่ยวข้องกับการเกิดปฏิกิริยาเคมี เช่น การเกิดสารใหม่ การสลายตัวให้ได้สารใหม่ การเผาไหม้ การระเบิด และการเกิดสนิมของโลหะ เป็นต้น ในการศึกษาสมบัติของสารนั้น สมบัติบางประการสามารถสังเกตได้จากลักษณะภายนอก และบางประการต้องทดลองจึงจะสังเกตเห็นได้ เช่น กำมะถัน และอะลูมิเนียมซัลไฟด์มีสมบัติหลายประการที่เหมือนกัน แต่ก็มีสมบัติหลายประการที่แตกต่างกัน
เขียนโดย กัลยาณี แก้วกัญจะ1/3 โรงเรียนเมืองเชลียง ที่ 5:20 ก่อนเที่ยง 0 ความคิดเห็น
สมัครสมาชิก: บทความ (Atom)













3.3 ตัวอย่างแผน Backwards++จะค่อยนำขึ้นเรื่อยๆครับ++


















10.2 แบบประเมินของผู้เชี่ยวฃาญ




112. ตัวอย่างนวัตกรรม








13. การหาค่าของคะแนนแบบง่าย


14. ตัวอย่างคู่มือการใช้เแบบฝึกฯ


15. การใช้ Font สำหรับนวัตกรรม.
เขียนโดย emotopzaa ที่ 5:23 ก่อนเที่ยง 0 ความคิดเห็น






แข่งเรือเฮือซ่วง..แห่กฐินทางน้ำ...สืบสานสู่รุ่นลูก-หลาน
ปีนี้จังหวัดสุโขทัย เน้นการสืบทอดวัฒนธรรมท้องถิ่นเพื่อคนรุ่นหลัง เสริมงานประเพณีลอยกระทง และเทศกาลอาหาร โดยเทศบาลตำบลหาดเสี้ยว อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโข ทัย ได้กำหนดจัดแห่กฐินทางน้ำขึ้น ระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม -2 พฤศจิกายน 2552 ณ บริเวณเขื่อนเรียงหิน หมู่ 2 ต.หาดเสี้ยว อ.ศรีสัชนาลัยว่าที่ ร.ต.ธีระยุทธ สุดเสมอใจ นายกเทศมนตรีตำบลหาดเสี้ยว กล่าวถึงความเป็นมาของประเพณีแห่องค์กฐินทางน้ำ และแข่งเรือ หรือชาวบ้านเรียกว่า (เฮือซ่วง) เป็นการทำบุญในเทศกาลทอดกฐินของชาวไทยพวน ที่นิยมทอดกันตั้งแต่แรม 1 ค่ำ เดือน 11 เป็นต้นไป จนถึงกลางเดือน 12 และถือกันว่า การทอดกฐินได้บุญมาก ผู้มีฐานะดีพอที่จะทอดได้ ต้องทอดด้วยกันทุกคน ผู้มีจิตศรัทธาปรารถนาจะทอดกฐิน ต้องเขียนหนังสือแสดงความจำนงจะทอดกฐินในวัน เดือน ปี นั้น ๆ ไปติดประกาศไว้ที่วัด เรียกว่า จองกฐินนายกเทศมนตรีตำบลหาดเสี้ยว กล่าวอีกว่า ในอดีตการทอดกฐินถ้าไปทอดที่วัดห่างไกลจากหมู่บ้าน ชาวบ้านจะช่วยกันแห่ไปแล้วทอดเสร็จในวันเดียว หากทอดที่วัดประจำในหมู่บ้าน หรือวัดใดวัดหนึ่งใกล้ ๆ กัน จะต้องมีการแห่วันหนึ่ง ทอดวันหนึ่ง การแห่ คือ การจัดเครื่องกฐิน เรียกว่า กองกฐิน ลงเรือยาวขนาดใหญ่ซึ่งจัดสร้างขึ้นไว้ในการนี้โดยเฉพาะ แล้วประดับตกแต่งอย่างสวยงาม ตามความนิยมของชาวบ้านหาดเสี้ยว ก่อนจะแห่ขึ้นไปตามลำน้ำ ซึ่งบรรดาชาวบ้านที่ตั้งบ้านเรือนอยู่สองฝั่งแม่น้ำ เมื่อได้ยินพิณพาทย์แห่กฐินมา จะพากันอุ้มลูกจูงหลานมาดูมาชมอย่างคับคั่ง ส่วนผู้เฒ่าผู้แก่ จะถือเครื่องไทยธรรมตามมีตามเกิด มารอคอยอยู่ที่ท่าน้ำเพื่อร่วมอนุโมทนาด้วยว่าที่ ร.ต.ธีระยุทธ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อเรือกฐินผ่านมา จะแวะเข้าไปรับทุก ๆ แห่ง จนสุดหมู่บ้านแล้ววนกลับ ในการแห่กฐินนี้พวกเด็กเล็กในหมู่บ้านที่ทอดกฐิน ต่างพากันร้องไห้กระจองอแง ขอให้พ่อแก่นำไปแห่กฐินด้วย พ่อแม่จำเป็นจะต้องพาลงเรือพายเรือแจวไปร่วมกับเรือกฐิน แต่ประเพณี ดังกล่าวเริ่มจะจางหายไปตามกาลเวลา คนรุ่นหลังก็ยังให้ ความสนใจประเพณี นี้ไม่มากนัก“ดังนั้นทางผู้บริหาร และคณะเทศบาลตำบลหาดเสี้ยว จึงได้ฟื้นฟูและสนับสนุนประเพณีแห่กฐินทางน้ำ และแข่งเรือ (เฮือซ่วง) ขึ้น ซึ่งคาดหมายว่า จะได้รับความพึงพอใจจากชาวตำบลบ้านหาดเสี้ยว และคนสุโขทัย พร้อมทั้งนักท่องเที่ยวที่ได้เดินทางมาท่องเที่ยวศึกษาขนบธรรมเนียมประเพณี ที่สำคัญอีกอย่างของคนสุโขทัย ซึ่งถือว่าเป็นเมืองวัฒนธรรมและเมืองมรดกโลก ซึ่งพร้อมจะสืบสานประเพณีนี้ให้คงอยู่คู่กับชุมชนเทศบาลตำบลหาดเสี้ยวและคน หาดเสี้ยวต่อไป”ว่าที่ ร.ต.ธีระยุทธ กล่าวว่า สุโขทัย เป็นเมืองเก่าแก่ เป็นต้นกำเนิดของวัฒนธรรมประ เพณีที่หลากหลาย และน่าค้นคว้า ซึ่งหากใครได้มาชมงานกฐินทางน้ำ และแข่งเรือของชาวหาดเสี้ยวแล้ว เชื่อว่านอกจากจะได้สนุกสนานเพลิดเพลินแล้ว ยังได้รับรู้ถึงวัฒนธรรมประเพณีของที่นี่อีกด้วย.
เขียนโดย กัลยาณี แก้วกัญจะ 0 ความคิดเห็น
0 ความคิดเห็น



มรดกล้ำเลิศ กำเนิดลายสือไทย เล่นไฟลอยกระทง มั่นคงพระพุทธศาสนางามตาผ้าตีนจก สังคโลกทองโบราณ สักการแม่ย่าพ่อขุน รุ่งอรุณแห่งความสุขสุโขทัย ในอดีตเคยเป็นราชธานีแห่งแรกของชาติไทย เมื่อ 700 ปีมาแล้ว ปัจจุบันเป็นจังหวัดหนึ่งในเขตภาคเหนือตอนล่าง คำว่า สุโขทัย มาจากคำสองคำคือ สุข+อุทัย หมายความว่า รุ่งอรุณแห่งความสุข สุโขทัยได้เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อประมาณปี พ. ศ. 1780-1800 มีการสถาปนาราชวงศ์พระร่วงขึ้นปกครองสุโขทัย โดยมีพ่อขุนศรีอินทราทิตย์เป็นปฐมกษัตริย์ ตลอดระยะเวลา 120 ปี ราชวงศ์สุโขทัย มีกษัตริย์ปกครองหลายพระองค์ ที่สำคัญคือ "พ่อขุนรามคำแหงมหาราช" ผู้ทรงประดิษฐ์อักษรไทย และวางรากฐานการเมือง การปกครอง ศาสนา ตลอดจนขยายอาณาเขตออกไปอย่างกว้างขวาง และด้วยความสำคัญในฐานะที่เป็นเอกลักษณ์ทางศิลปะของไทยในสมัยเริ่มสร้างอาณาจักรที่ยังหลงเหลืออยู่ในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ได้รับการยกย่องให้เป็น มรดกโลก โดยองค์การ UNESCO เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2534งานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย วันที่ 31 ตุลาคม - 2 พฤศจิกายน 2552 ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย กิจกรรมกิจกรรมรับรุ่งอรุณแห่งความสุข การแสดงแสง เสียง ขบวนแห่กระทง การประกวดกระทง พนมหมาก พนมดอกไม้ ประกวดนางนพมาศ ขบวนแห่โคมชักโคมแขวน การแสดงศิลปวัฒนธรรม ประเพณีของสุโขทัย การเล่นพลุตะไล ไฟพะเนียงสอบถามรายละเอียดอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย โทร. 0 5569 7527 ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุโขทัย โทร. 0 5561 2286อาณาเขตทิศเหนือ ติดต่อกับจังหวัดแพร่ ทิศใต้ ติดต่อกับจังหวัดกำแพงเพชร ทิศตะวันออก ติดต่อกับจังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดอุตรดิตถ์ ทิศตะวันตก ติดต่อจังหวัดตาก และจังหวัดลำปาง หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุโขทัย โทรศัพท์ 0 5561 6228, 0 5561 6366 โทรสาร 0 5561 6230ประชาสัมพันธ์จังหวัด โทร. 0 5561 1619 ที่ว่าการอำเภอศรีสัชนาลัย โทร. 0 5567 1466 สถานีตำรวจภูธร โทร. 191, 0 5561 1199, 0 5561 3112 โรงพยาบาลสุโขทัย โทร. 0 5561 1702, 0 5561 1782 สถานีเดินรถโดยสารประจำทาง โทร. 0 5561 3296Link ที่น่าสนใจ สำนักงานจังหวัดสุโขทัย โทร. 0 5561 2286http://www.sukhothai.go.th การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุโขทัย http://www.tourismthailand.org/sukhothai



สุโขทัย ในอดีตเคยเป็นราชธานีแห่งแรกของชาติไทย เมื่อ 700 ปีมาแล้ว ปัจจุบันเป็นจังหวัดหนึ่งในเขตภาคเหนือตอนล่าง คำว่า สุโขทัย มาจากคำสองคำคือ สุข+อุทัย หมายความว่า รุ่งอรุณแห่งความสุข สุโขทัยได้เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อประมาณ ปี พ. ศ. 1800 มีการสถาปนาราชวงศ์พระร่วงขึ้นปกครองสุโขทัย โดยมีพ่อขุนศรีอินทราทิตย์เป็นปฐมกษัตริย์ ตลอดระยะเวลา 120 ปี ราชวงศ์สุโขทัย มีกษัตริย์ปกครองหลายพระองค์ ที่สำคัญคือ "พ่อขุนรามคำแหงมหาราช" ผู้ทรงประดิษฐ์อักษรไทย และวางรากฐานการเมือง การปกครอง ศาสนา ตลอดจนขยายอาณาเขตออกไปอย่างกว้างขวาง และด้วยความสำคัญในฐานะที่เป็นเอกลักษณ์ทางศิลปะของไทย ในสมัยเริ่มสร้างอาณาจักรที่ยังหลงเหลืออยู่ในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ได้รับการยกย่องให้เป็น มรดกโลก โดยองค์การ UNESCO เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2534อาณาเขต จังหวัดสุโขทัยอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 427 กิโลเมตร มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 6,596 ตารางกิโลเมตรหมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญที่มา http://www.loikrathong.net/th/hl_sukhothai.php
ประชาสัมพันธ์จังหวัด โทร. 0 5561 1619
ที่ว่าการอำเภอศรีสัชนาลัย โทร. 0 5567 1466
สถานีตำรวจภูธร โทร. 191, 0 5561 1199, 0 5561 3112
โรงพยาบาลสุโขทัย โทร. 0 5561 1702, 0 5561 1782
สถานีเดินรถโดยสารประจำทาง โทร. 0 5561 3296
เขียนโดยกัลยาณี แก้วกัญจะ0 ความคิดเห็น

ที่มา http://www.skooolthai.net/content/pilot/physics/mass_weight_gravity/launch.html



การวัดอัตราเร็วและความเร็ว




ที่มา http://www.skooolthai.net/content/pilot/physics/measuring_speed/launch.html

วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2552


แนะนำกิจกรรมการท่องเที่ยว
ล่องนาวายามราตรี ชมแสงสีเมืองกรุงเก่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ล่องนาวายามราตรี ชมแสงสีเมืองกรุงเก่า จั...
สัมผัสประสบการณ์ยามราตรี ณ เมืองกรุงเก่า

นั่งรถราง เล่าขานกรุงเก่า
โครงการโมบายล์ มินิ ไลต์ แอนด์ ซาวด์ การแสดงแสง เสียงสัญจร ในรูปแบบของรถรางล้อยางท่องเที่ยวในเขตอุทย...

วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2552














ประเพณีลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย ประจำปี 2552









กำหนดการประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย ประจำปี 2552วันที่ 31 ตุลาคม – 2 พฤศจิกายน 2552 ณ อุทยานประวัติศาสดร์สุโขทัยวันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม 2552 (วันขึ้น 13 ค่ำเดือน 12)กิจกรรม

เวลา 05.30 น. พิธีรับรุ่งอรุณแห่งความสุข ณ อุโบสถวัดตระพังเงิน -ตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์ 9 รูป -พระสงฆ์เจริญพุทธมนต์ เจริญพุทธมนต์ เจริญชัยมงคลคาถา ประพรมน้ำพระพุทธมนต์

เวลา 07.45 น. หัวหน้าส่วนราชการในจังหวัด นายอำเภอทุกอำเภอ ผู้บริหารสถาบันการศึกษา หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ข้าราชการทุกฝ่าย ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด สมาชิกสภาเทศบาล พนักงานส่วนท้องถิ่น สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัด สมาชิกองค์กร ภาคเอกชน นักเรียนนักศึกษา พ่อค้าและประชาชน ทุกเหล่าพร้อมกัน ณ บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช

เวลา 08.00 น. พิธีบวงสรวงบุรพกษัตริย์สุโขทัย ทุกพระองค์ ณ บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช -ประธานในพิธีจุดเทียนสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช -ประธานในพิธีถวายพวงมาลัยคล้องพระแสง -ประธานในพิธีจุดเทียนชัยที่โต๊ะเครื่องบวงสรวง -เสร็จพิธีพราหมณ์ -รำบวงสรวง -สวดสรภัญญะ -เสร็จพิธีบวงสรวง

เวลา 09.45 น. พิธีสงฆ์ (ดำเนินการต่อเนื่องจากพิธีบวงสรวง) -พระสงฆ์ 10 รูป พร้อม ณ บริเวณ พิธีข้างลานพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช -ประธานในพิธีจุเทียนบูชาพระรัตนตรัย -พิธีกรอาราธนาศีล -ประธานสงฆ์ให้ศีล -พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ -ประธานในพิธีประจำ ณ แท่นพิธี -ประธานจัดกล่าวรายงาน -ประธานในพิธีกล่าวเปิดงานประเพณีลอยกระทงฯ ประจำปี 2552 -ประธานในพิธีลั่นฆ้อง 3 ครั้ง พนักงานจุพลุ ดุริยางค์บรรเลงเพลงมหาฤกษ์ -พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา -ประธานในพิธีและคณะถวายจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์ -พระสงฆ์อนุโมทนา (เสร็จพิธีสงฆ์)

เวลา 10.00 น. ตั้งองค์กฐิน ณ บริเวณลานโพธิ์

เวลา 11.00 น. การประกวดโคมชักโคมแขวน ณ บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช

-กิจกรรมเล่านิทานพื้นบ้านด้วยภาษาท้องถิ่นสุโขทัย ณ บริเวณลานวัฒนธรรมด้านหลังวัดชนะสงคราม -การแข่งขันและการแสดงกีฬาพื้นบ้านหน้าวัดมหาธาตุ-การแข่งขันหมากรุกไทย -การแสดงกระบี่กระบอง -การสาธิตมวยคาดเชือก -การสาธิตว่าวไทย -การสาธิตพุทธศิลป์สุโขทัย ณ บริเวณลานโพธิ์หน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช

เวลา 16.00 น. การแสดงหมากรุกไทย (คน) โดยใช้นักแสดงจากนาฏศิลป์สุโขทัย ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช -การแสดงหมู่บ้านวิถีไทยสมัยกรุงสุโขทัย ณ ศาลา 4 หลัง

เวลา 17.00 น. การแสดงดนตรีไทย ณ บริเวณวัดชนะสงคราม บริเวณวัดสระศรี บริเวณหน้าประตู ทางเข้าอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ด้านประตูใหญ่ และบริเวณวัดตระพังเงิน

เวลา 18.00 น. กิจกรรมข้าวขวัญวันเล่นไฟ ณ หน้าวัดมหาธาตุ

เวลา 19.00 น. การแสดงประกอบ แสง สี เสียง ณ บริเวณวัดมหาธาตุ

เวลา 20.00 น. การแสดงนาฏศิลป์ 4 ภาค ณ โรงละครกลางแจ้ง

เวลา 21.00 น. การแสดงโขน ณ บริเวณด้านหลังวัดชนะสงครามวันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน 2552 (วันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 12)กิจกรรม

เวลา 05.30 น. พิธีรับอรุณแห่งความสุข ณ อุโบสถวัดตระพังเงิน -ตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งถวายแด่พระสงฆ์ 9 รูป -พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ เจริญชัยมงคลคาถา ประพรมน้ำพระพุทธมนต์เวลา 09.00 น. ขบวนแห่ผ้ากฐินทาน ไปทอดถวาย ณ วัดตระพังทอง

เวลา 09.30 น. ขบวนแห่พระเวสสันดร และตัวละครเทศน์มหาชาติ เริ่มขบวนที่หน้าศาลเจ้าผาดำ ไปสิ้นสุด ณ ลานวัฒนธรรม

เวลา 10.00 น. การแข่งขันกีฬาพื้นบ้านหมากรุกไทย (รอบชิงชนะเลิศ) ณ บริเวณลานกีฬาพื้นบ้านหน้าวัดมหาธาตุ -การแสดงกรี่กระบอง -การสาธิตมวยคาดเชือก -การสาธิตพุทธศิลป์สุโขทัย ณ บริเวณลานโพธิ์หน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช

เวลา 11.00 น. จัดแสดงกระทงเล็ก พนมหมาก พนมดอกไม้ ณ บริเวณหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช

เวลา 16.00 น. การแสดงหมากรุกไทย (คน) โดยใช้นักแสดงจากนาฏศิลป์สุโขทัย ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช -การแสดงหมู่บ้านวิถีไทยสมัยกรุงสุโขทัย ณ ศาลา 4 หลังเวลา 17.00 น. การแสดงดนตรีไทย ณ บริเวณวัดชนะสงคราม บริเวณวัดสระศรี บริเวณหน้าประตู ทางเข้าอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ด้านประตูใหญ่ และบริเวณวัดตระพังเงิน

เวลา 18.00 น. กิจกรรมข้าวขวัญวันเล่นไฟ ณ หน้าวัดมหาธาตุ

เวลา 19.00 น. ชมขบวนอัญเชิญพระประทีป และกระทงพระราชทาน ณ บริเวณหน้าเทศบาลสุโขทัยธานีเวลา 20.00 น. การแสดงนาฏศิลป์ 4 ภาค ณ โรงละครกลางแจ้ง

เวลา 21.00 น. การแสดงโขน ณ บริเวณด้านหลังวัดชนะสงคราม

เวลา 22.30 น. การแสดงตำนานเรือท้าวศรีจุฬาลักษณ์ ณ บริเวณสระน้ำตระพังตระกวนวันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2552 (วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12)กิจกรรม

เวลา 05.30 น. พิธีรับอรุณแห่งความสุข ณ อุโบสถวัดตระพังเงิน -ตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งถวายแด่พระสงฆ์ 9 รูป -พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ เจริญชัยมงคลคาถา ประพรมน้ำพระพุทธมนต์

เวลา 08.00 น. ชมขบวนอัญเชิญพระประทีป และกระทงพระราชทานแห่รอบเมืองสุโขทัยธานี

เวลา 10.00 น. ประกวดการเล่านิทานพื้นบ้านด้วยภาษาท้องถิ่นสุโขทัย ณ ด้านหลังวัดชนะสงคราม (รอบชิงชนะเลิศ) -การสาธิตพุทธศิลป์สุโขทัย ณ บริเวณลานโพธิ์หน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช

เวลา 13.45 น. ขบวนอัญเชิญพระประทีป และกระทงพระราชทาน ขบวนแห่ประเพณีวัฒนธรรม 9 อำเภอ กระทงใหญ่ กระทงเล็ก โคมชักโคมแขวน พนมหมากพนมดอกไม้ หมากรุกไทยนางนพมาศ และหนูน้อยนพมาศ ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ประธานต้อนรับขบวนแห่พระพระทีปฯ ณ บริเวณตระพังตาล

เวลา 16.00 น. การแสดงหมู่บ้านวิถีไทยสมัยกรุงสุโขทัย ณ ศาลา 4 หลัง

เวลา 17.00 น. การแสดงดนตรีไทย ณ บริเวณวัดชนะสงคราม บริเวณวัดสระศรี บริเวณหน้าประตู ทางเข้าอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ด้านประตูใหญ่ และบริเวณข้างสระน้ำตระพังตาล

เวลา 17.30 น. ประธานมอบรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวด กระทงใหญ่ กระทงเล็ก โคมชักโคมแขวน พนมหมากพนมดอกไม้ หมากรุกไทยนางนพมาศ หนูน้อยนพมาศ และผู้ชนะการเล่านิทานพื้นบ้านด้วยภาษาท้องถิ่นสุโขทัย ณ บริเวณเวทีกลางหมู่บ้านวัฒนธรรมด้านหลังวัดชนะสงคราม

เวลา 18.00 น. กิจกรรมข้าวขวัญวันเล่นไฟ ณ หน้าวัดมหาธาตุ

เวลา 19.30 น การแสดงประกอบ แสง เสียง ณ บริเวณวัดมหาธาตุ (รอบแรก)

เวลา 20.00 น. การแสดงนาฏศิลป์ 4 ภาค ณ โรงละครกลางแจ้ง

เวลา 20.30 น. การแสดงประกอบ แสง เสียง ณ บริเวณวัดมหาธาตุ (รอบที่ 2) -การเล่นสักวา ณ บริเวณสระน้ำวัดสระศรี (ตระพังตระกวน)

เวลา 21.30 น. พิธีเผาเทียนเล่นไฟ ณ บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช โดยฌชิญประธานจุดตะคันใหญ่

เวลา 22.00 น. กิจกรรมตำนานเรือท้าวศรีจุฬาลักษณ์

เวลา 23.00 น. พิธีอัญเชิญพระประทีป และกระทงพระราชทาน ลงลอยเป็นปฐมฤกษ์ ณ บริเวณสระน้ำวัดสระศรี (ตระพังตระกวน) -การแสดงพลุ ตะไล ไฟพะเนียง ณ บริเวณสระน้ำวัดสระศรี (ตระพังตระกวน)ที่มา http://thaismarttour.igetweb.com/index.php?mo=3&art=328038

วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2552



แข่งเรือเฮือซ่วง..แห่กฐินทางน้ำ...สืบสานสู่รุ่นลูก-หลาน



ปีนี้จังหวัดสุโขทัย เน้นการสืบทอดวัฒนธรรมท้องถิ่นเพื่อคนรุ่นหลัง เสริมงานประเพณีลอยกระทง และเทศกาลอาหาร โดยเทศบาลตำบลหาดเสี้ยว อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโข ทัย ได้กำหนดจัดแห่กฐินทางน้ำขึ้น ระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม -2 พฤศจิกายน 2552 ณ บริเวณเขื่อนเรียงหิน หมู่ 2 ต.หาดเสี้ยว อ.ศรีสัชนาลัย

ว่าที่ ร.ต.ธีระยุทธ สุดเสมอใจ นายกเทศมนตรีตำบลหาดเสี้ยว กล่าวถึงความเป็นมาของประเพณีแห่องค์กฐินทางน้ำ และแข่งเรือ หรือชาวบ้านเรียกว่า (เฮือซ่วง) เป็นการทำบุญในเทศกาลทอดกฐินของชาวไทยพวน ที่นิยมทอดกันตั้งแต่แรม 1 ค่ำ เดือน 11 เป็นต้นไป จนถึงกลางเดือน 12 และถือกันว่า การทอดกฐินได้บุญมาก ผู้มีฐานะดีพอที่จะทอดได้ ต้องทอดด้วยกันทุกคน ผู้มีจิตศรัทธาปรารถนาจะทอดกฐิน ต้องเขียนหนังสือแสดงความจำนงจะทอดกฐินในวัน เดือน ปี นั้น ๆ ไปติดประกาศไว้ที่วัด เรียกว่า จองกฐิน

นายกเทศมนตรีตำบลหาดเสี้ยว กล่าวอีกว่า ในอดีตการทอดกฐินถ้าไปทอดที่วัดห่างไกลจากหมู่บ้าน ชาวบ้านจะช่วยกันแห่ไปแล้วทอดเสร็จในวันเดียว หากทอดที่วัดประจำในหมู่บ้าน หรือวัดใดวัดหนึ่งใกล้ ๆ กัน จะต้องมีการแห่วันหนึ่ง ทอดวันหนึ่ง การแห่ คือ การจัดเครื่องกฐิน เรียกว่า กองกฐิน ลงเรือยาวขนาดใหญ่ซึ่งจัดสร้างขึ้นไว้ในการนี้โดยเฉพาะ แล้วประดับตกแต่งอย่างสวยงาม ตามความนิยมของชาวบ้านหาดเสี้ยว ก่อนจะแห่ขึ้นไปตามลำน้ำ ซึ่งบรรดาชาวบ้านที่ตั้งบ้านเรือนอยู่สองฝั่งแม่น้ำ เมื่อได้ยินพิณพาทย์แห่กฐินมา จะพากันอุ้มลูกจูงหลานมาดูมาชมอย่างคับคั่ง ส่วนผู้เฒ่าผู้แก่ จะถือเครื่องไทยธรรมตามมีตามเกิด มารอคอยอยู่ที่ท่าน้ำเพื่อร่วมอนุโมทนาด้วย

ว่าที่ ร.ต.ธีระยุทธ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อเรือกฐินผ่านมา จะแวะเข้าไปรับทุก ๆ แห่ง จนสุดหมู่บ้านแล้ววนกลับ ในการแห่กฐินนี้พวกเด็กเล็กในหมู่บ้านที่ทอดกฐิน ต่างพากันร้องไห้กระจองอแง ขอให้พ่อแก่นำไปแห่กฐินด้วย พ่อแม่จำเป็นจะต้องพาลงเรือพายเรือแจวไปร่วมกับเรือกฐิน แต่ประเพณี ดังกล่าวเริ่มจะจางหายไปตามกาลเวลา คนรุ่นหลังก็ยังให้ ความสนใจประเพณี นี้ไม่มากนัก

“ดังนั้นทางผู้บริหาร และคณะเทศบาลตำบลหาดเสี้ยว จึงได้ฟื้นฟูและสนับสนุนประเพณีแห่กฐินทางน้ำ และแข่งเรือ (เฮือซ่วง) ขึ้น ซึ่งคาดหมายว่า จะได้รับความพึงพอใจจากชาวตำบลบ้านหาดเสี้ยว และคนสุโขทัย พร้อมทั้งนักท่องเที่ยวที่ได้เดินทางมาท่องเที่ยวศึกษาขนบธรรมเนียมประเพณี ที่สำคัญอีกอย่างของคนสุโขทัย ซึ่งถือว่าเป็นเมืองวัฒนธรรมและเมืองมรดกโลก ซึ่งพร้อมจะสืบสานประเพณีนี้ให้คงอยู่คู่กับชุมชนเทศบาลตำบลหาดเสี้ยวและคน หาดเสี้ยวต่อไป”

ว่าที่ ร.ต.ธีระยุทธ กล่าวว่า สุโขทัย เป็นเมืองเก่าแก่ เป็นต้นกำเนิดของวัฒนธรรมประ เพณีที่หลากหลาย และน่าค้นคว้า ซึ่งหากใครได้มาชมงานกฐินทางน้ำ และแข่งเรือของชาวหาดเสี้ยวแล้ว เชื่อว่านอกจากจะได้สนุกสนานเพลิดเพลินแล้ว ยังได้รับรู้ถึงวัฒนธรรมประเพณีของที่นี่อีกด้วย.







บัญชีรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา/รองผู้อำนวยการสถานศึกษา



















ประกาศ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาสุโขทัย เขต 2เรื่อง ผลการคัดเลือกข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา …………………………ตามที่ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาสุโขทัย เขต 2 ได้ประกาศรับสมัครคัดเลือกข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา ลงวันที่ 10 กันยายน 2552 นั้นบัดนี้ การดำเนินการคัดเลือกได้เสร็จสิ้นแล้ว โดยอนุมัติ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาสุโขทัย เขต 2 ในคราวประชุมครั้งที่ 8 / 2552 เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2552 จึงได้ประกาศผลผู้ได้รับการคัดเลือกเรียงตามลำดับจากผู้ได้คะแนนรวมสูงสุดจากมากไปหาน้อย มีกำหนด 2 ปี นับแต่วันประกาศขึ้นบัญชี รายละเอียดตามบัญชีรายชื่อแนบท้ายประกาศนี้ทั้งนี้ ให้ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเข้ารับการพัฒนาก่อนการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยสถานศึกษา ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด ในวัน เวลา และสถานที่ ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุโขทัย เขต 2 กำหนด ซึ่งจะแจ้งให้ทราบภายหลังประกาศ ณ วันที่ 12 เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2552( นายประยุทธ นาวายนต์ )อนุกรรมการและเลขานุการใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาประจำเขตพื้นที่การศึกษาสุโขทัย เขต 2บัญชีรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุโขทัย เขต 2 แนบท้ายประกาศการคัดเลือกผู้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา ลงวันที่ 12 ตุลาคม 2552 อันดับที่ เลขที่สอบ ชื่อ -สกุล หมายเหตุ



1 033 นายไพรัตน์ กลิ่นทับ



2 016 นายสารัตน์ พวงเงิน



3 009 นายวิโรจน์ บัวคง



4 010 นางหทัยรัตน์ เกษรจันทร์



5 022 นายสมบัติ ป้องฉิม



6 039 นายรัฐพล โพธิ์แก้ว



7 004 นางสาวศิริวรรณ ขวัญมุข



8 011 นางนภาศรี ทิมภูธรา



9 032 นายสาโรช เกตุสาคร



10 037 นางสาวชรินยา สุขย้อย



11 003 นายสุภัค พวงขจร



12 036 นางวาสนา ตาคม



13 015 นายชัชวาลย์ อ่ำเทศ



14 017 นายชาญวิทย์ วงศ์จักร



15 025 นางรัชนี เมืองชื่น



16 001 นายธรรมศาสตร์ ธรรมไชย



17 005 นายประทีป สันธิ



18 021 นายเยี่ยม ต้นกลั่น



19 034 นายประยุทธ ครุธแก้ว



20 030 ว่าที่ พ.ต.ทับทิม พาโคกทม



21 027 นายปิยะวุฒิ ล่องชูผล



22 038 นางสาวสุภาณี หัฐพฤติ



23 026 นายพนม สุขหา



24 013 นางราตรี สุวรรณประสิทธิ์



25 024 นางสาวนรินทร์ อินทะนัก



26 002 นายธีรพงษ์ เข็มคง



27 006 นายคมกริช จบศรี



28 028 นางสาวรัตนาวดี ทับเงิน



29 020 นางรุจิรัตน์ รัตนเพชร



ประกาศ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาสุโขทัย เขต 2เรื่อง ผลการคัดเลือกข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา …………………………ตามที่ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาสุโขทัย เขต 2 ได้ประกาศรับสมัครคัดเลือกข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา ลงวันที่ 10 กันยายน 2552 นั้นบัดนี้ การดำเนินการคัดเลือกได้เสร็จสิ้นแล้ว โดยอนุมัติ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาสุโขทัย เขต 2 ในคราวประชุมครั้งที่ 8 / 2552 เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2552 จึงได้ประกาศผลผู้ได้รับการคัดเลือกเรียงตามลำดับจากผู้ได้คะแนนรวมสูงสุดจากมากไปหาน้อย มีกำหนด 2 ปี นับแต่วันประกาศขึ้นบัญชี รายละเอียดตามบัญชีรายชื่อแนบท้ายประกาศนี้ทั้งนี้ ให้ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเข้ารับการพัฒนาก่อนการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยสถานศึกษา ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด ในวัน เวลา และสถานที่ ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุโขทัย เขต 2 กำหนด ซึ่งจะแจ้งให้ทราบภายหลังประกาศ ณ วันที่ 12 เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2552( นายประยุทธ นาวายนต์ )อนุกรรมการและเลขานุการใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาประจำเขตพื้นที่การศึกษาสุโขทัย เขต 2บัญชีรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุโขทัย เขต 2 แนบท้ายประกาศการคัดเลือกผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา ลงวันที่ 12 ตุลาคม 2552



อันดับที่ เลขที่สอบ ชื่อ -สกุล หมายเหตุ



1 022 นางวาสนา สำเนียง



2 071 นายอำนวย บูรณะไทย



3 078 นายวีระศักด์ ย้อยสร้อยสุด



4 072 นายประวิท วิริยะพงษ์



5 053 นายสุวิทย์ อภิโล



6 064 นายชวลิต ทะยะ



7 067 นายอลงกรณ์ หงษ์ผ้วย



8 001 นางสาวยุพิน จงแจ่มฟ้า



9 028 นายดำรง คุ้มพาล



10 081 นายประสาน โชติมน



11 005 นายสมพร สุขอร่าม



12 025 นางกมลวรรณ ตั้งสุขสันต์



13 063 นางศิริรัตน์ แก้วทอง



14 082 นายไพบูลย์ พวงเงิน



15 026 นางชลิศา ป้องฉิม



16 014 นายพิเชฐ ขำพงศ์



17 036 นายสุรสิทธิ์ เกษประสิทธิ์



18 011 นายอนุชิต กมล



19 008 นายณฐวรรษ ยอดแก้ว



20 031 นายไพรัช เดชะศิริ



21 060 นายไพรัช อินต๊ะสงค์



22 054 นางกาบแก้ว สวยสม



23 015 นายจำเริญ สุวรรณประสิทธิ์



24 062 นายเกียรติชัย สังข์จันทร์



25 046 นายธัชพล โพธิทา



26 007 นางสายสุณีย์ ไพบูลย์กสิกรรม



27 043 นางกุณฑี วงค์จันทรมณี



28 074 นางสาวทองปลาย กมล



29 077 นายศราวุธ คำแก้ว



30 068 นายสมศักดิ์ วรรณโชค



31 034 นายอานนท์ ชาญกูล



32 042 นายธวัชชัย อินต๊ะเสาร์



33 070 นายนิคม จันทร์อิ่ม



34 069 นายมนัส เจื้อยแจ้ว



35 029 นายสมยศ ทองรัตน์



36 075 นายประธาน หาญณรงค์



37 018 นายสุชาติ หลำพรม



38 006 นางอิสรีย์ ชัยวัฒน์ดำรงสุข



39 017 นายวินัย จันทร์หอม



40 021 นายบุญชู คำรักษ์



41 050 นายสุทัศน์ หลินจริญ



42 052 นางธนวรรณ มะโนรา



43 080 นายสังวาลย์ พลอยคำ



44 002 นายมานพ หลงแย้ม



45 079 นายวัลลภ เอี่ยมมะ



46 051 นายกฤษดา แจ่มทุ่ง



47 073 นายวิลาศ ส่งให้



48 041 นายนคเรศ นิลวงศ์



49 012 นางสาวปรีเปรม เค้าอ้น



50 023 นายอานนท์ อุ่นนังกาศ



51 009 นางจิตติมนต์ อัครจรัญรัตน์



52 055 นายวสันต์ บัวหลวง



53 039 นายสมโภชน์ วรรณโชค



54 066 นางสาวจินตนา ทองแจ่ม



55 065 นางปราณี จันทราราชัย



56 010 นายสำราญ จงอยู่เย็น



57 032 นายภูษิต ภูสีโสม



8 048 นายจำเนียร ตูมหอม



59 057 นายพิรุณ กาสาย



60 019 นายประเสริฐ รุ่งเรือง



61 038 นายวัฒนา แสนคำ



62 004 นายวัชรินทร์ ฤทธิ์รักษา



63 035 นายวีระ อินทรสุวรรณ



64 016 นายสมศักดิ์ แก้วนุช



65 040 นายเทียม จรวุฒิพันธ์



66 037 นายสุพจน์ กล้าวาจา



67 020 นายอุทิศ มีเต็ม



68 045 นางสาวรวิสรา แก้วเกต



69 003 นางอารยา ปานคง



70 013 นางสาววิไลลักษณ์ ปักษี



71 049 นายโกวิทย์ บริสุทธิ์



72 024 ว่าที่ร้อยตรีสมเกียรติ ขอนทอง



ที่มา http://www.sukhothai2.go.th/main/
เขียนโดยกัลยาณี แก้วกัญจะ
0 ความคิดเห็น

งานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย วันที่ 31 ตุลาคม - 2 พฤศจิกายน 2552 ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย



ที่มาhttp://thai.tourismthailand.org/map/sukhothai-64-1.htmlมรดกล้ำเลิศ กำเนิดลายสือไทย เล่นไฟลอยกระทง มั่นคงพระพุทธศาสนางามตาผ้าตีนจก สังคโลกทองโบราณ สักการแม่ย่าพ่อขุน รุ่งอรุณแห่งความสุขสุโขทัย ในอดีตเคยเป็นราชธานีแห่งแรกของชาติไทย เมื่อ 700 ปีมาแล้ว ปัจจุบันเป็นจังหวัดหนึ่งในเขตภาคเหนือตอนล่าง คำว่า สุโขทัย มาจากคำสองคำคือ สุข+อุทัย หมายความว่า รุ่งอรุณแห่งความสุข สุโขทัยได้เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อประมาณปี พ. ศ. 1780-1800 มีการสถาปนาราชวงศ์พระร่วงขึ้นปกครองสุโขทัย โดยมีพ่อขุนศรีอินทราทิตย์เป็นปฐมกษัตริย์ ตลอดระยะเวลา 120 ปี ราชวงศ์สุโขทัย มีกษัตริย์ปกครองหลายพระองค์ ที่สำคัญคือ "พ่อขุนรามคำแหงมหาราช" ผู้ทรงประดิษฐ์อักษรไทย และวางรากฐานการเมือง การปกครอง ศาสนา ตลอดจนขยายอาณาเขตออกไปอย่างกว้างขวาง และด้วยความสำคัญในฐานะที่เป็นเอกลักษณ์ทางศิลปะของไทยในสมัยเริ่มสร้างอาณาจักรที่ยังหลงเหลืออยู่ในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ได้รับการยกย่องให้เป็น มรดกโลก โดยองค์การ UNESCO เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2534งานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย วันที่ 31 ตุลาคม - 2 พฤศจิกายน 2552 ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย กิจกรรมกิจกรรมรับรุ่งอรุณแห่งความสุข การแสดงแสง เสียง ขบวนแห่กระทง การประกวดกระทง พนมหมาก พนมดอกไม้ ประกวดนางนพมาศ ขบวนแห่โคมชักโคมแขวน การแสดงศิลปวัฒนธรรม ประเพณีของสุโขทัย การเล่นพลุตะไล ไฟพะเนียงสอบถามรายละเอียดอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย โทร. 0 5569 7527 ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุโขทัย โทร. 0 5561 2286อาณาเขตทิศเหนือ ติดต่อกับจังหวัดแพร่ ทิศใต้ ติดต่อกับจังหวัดกำแพงเพชร ทิศตะวันออก ติดต่อกับจังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดอุตรดิตถ์ ทิศตะวันตก ติดต่อจังหวัดตาก และจังหวัดลำปาง


หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ


การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุโขทัย


โทรศัพท์ 0 5561 6228, 0 5561 6366


โทรสาร 0 5561 6230


ประชาสัมพันธ์จังหวัด โทร. 0 5561 1619


ที่ว่าการอำเภอศรีสัชนาลัย โทร. 0 5567 1466


สถานีตำรวจภูธร โทร. 191, 0 5561 1199, 0 5561 3112


โรงพยาบาลสุโขทัย โทร. 0 5561 1702, 0 5561 1782


สถานีเดินรถโดยสารประจำทาง โทร.


0 5561 3296


Link ที่น่าสนใจ


สำนักงานจังหวัดสุโขทัย โทร. 0 5561 2286


http://www.sukhothai.go.th การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุโขทัย http://www.tourismthailand.org/sukhothai




สุโขทัย ในอดีตเคยเป็นราชธานีแห่งแรกของชาติไทย เมื่อ 700 ปีมาแล้ว ปัจจุบันเป็นจังหวัดหนึ่งในเขตภาคเหนือตอนล่าง คำว่า สุโขทัย มาจากคำสองคำคือ สุข+อุทัย หมายความว่า รุ่งอรุณแห่งความสุข สุโขทัยได้เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อประมาณ ปี พ. ศ. 1800 มีการสถาปนาราชวงศ์พระร่วงขึ้นปกครองสุโขทัย โดยมีพ่อขุนศรีอินทราทิตย์เป็นปฐมกษัตริย์ ตลอดระยะเวลา 120 ปี ราชวงศ์สุโขทัย มีกษัตริย์ปกครองหลายพระองค์ ที่สำคัญคือ "พ่อขุนรามคำแหงมหาราช" ผู้ทรงประดิษฐ์อักษรไทย และวางรากฐานการเมือง การปกครอง ศาสนา ตลอดจนขยายอาณาเขตออกไปอย่างกว้างขวาง และด้วยความสำคัญในฐานะที่เป็นเอกลักษณ์ทางศิลปะของไทย ในสมัยเริ่มสร้างอาณาจักรที่ยังหลงเหลืออยู่ในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ได้รับการยกย่องให้เป็น มรดกโลก โดยองค์การ UNESCO เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2534อาณาเขต จังหวัดสุโขทัยอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 427 กิโลเมตร มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 6,596 ตารางกิโลเมตร

หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ

ที่มา http://www.loikrathong.net/th/hl_sukhothai.php

ประชาสัมพันธ์จังหวัด โทร. 0 5561 1619

ที่ว่าการอำเภอศรีสัชนาลัย โทร. 0 5567 1466

สถานีตำรวจภูธร โทร. 191, 0 5561 1199, 0 5561 3112

โรงพยาบาลสุโขทัย โทร. 0 5561 1702, 0 5561 1782

สถานีเดินรถโดยสารประจำทาง โทร. 0 5561 3296
เขียนโดย กัลยาณี แก้วกัญจะ
0 ความคิดเห็น